กระทรวง อว. จับมือ รร.นายร้อยตำรวจ ป้องกันอาชญากรรมทั้งการกระทำความผิดและการตกเป็นเหยื่อในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ โดยใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ทักษะเอาตัวรอดเมื่อต้องเผชิญเหตุและสร้างระบบสภาพแวดล้อมในพื้นที่



ทั่วประเทศและเพื่อสร้างระบบสภาพแวดล้อมการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ รวมทั้งส่งเสริมทักษะการเอาตัวรอดแก่บุคลากรของมหาวิทยาลัย นักศึกษาหรือประชาชนในพื้นที่โดยรอบ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการค้นคว้าวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมทางสังคมที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยเฉพาะในกระบวนการป้องกันอาชญากรรมทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค โดยความร่วมมือดังกล่าวมีระยะเวลา 3 ปี

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมมีแนวโน้มของความรุนแรงและมีรูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยสิ่งที่สะท้อนได้อย่างชัดเจนคือ สถิติคดีอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปีและข่าวสารที่สื่อแขนงต่างๆ มีการนำเสนอข่าวการตกเป็นเหยื่อคดีอาชญากรรม และความเสียหายจากปัญหาอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง แม้สังคมต้องประสบกับวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่ปัญหาอาชญากรรมที่มีการวิวัฒนาการตามการเปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม เพราะถือเป็นภัยใกล้ตัวที่อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อบุคคล และความสงบเรียบร้อยของสังคมในภาพรวม ดังนั้น การจัดการกับปัญหาอาชญากรรม จำเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งในเชิงวิชาการและเชิงปฏิบัติการ เพื่อระดมองค์ความรู้ นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ในการค้นคว้าวิจัย และการสร้างนวัตกรรมที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยเฉพาะการจัดการกับปัญหาอาชญากรรม ที่จะต้องดำเนินการให้ครอบคลุม ทั้งในมิติของการป้องกันการกระทำความผิด และมิติของการป้องกันการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม ในรูปแบบต่างๆ ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น อาทิ การฉ้อโกงออนไลน์ การหลอกลงทุน คอลเซ็นเตอร์ การกราดยิง เป็นต้น
“โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการป้องกันอาชญากรรม สามารถที่จะเข้ามามีบทบาทในการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่นักศึกษา อาจารย์ บุคลากร และประชาชนทั่วไป ในการป้องกันการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมสมัยใหม่ โดยเฉพาะการให้วัคซีนทางไซเบอร์ เพื่อให้มีความรู้เท่าทันอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในสังคมปัจจุบัน การจับมือร่วมกันในครั้งนี้ ได้เล็งเห็นความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรม รวมทั้งการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างหน่วยงาน อันจะก่อให้เกิดความเข้มแข็งทางองค์ความรู้ และสามารถนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้สำหรับการป้องกันอาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างเสริมให้สังคมปลอดภัยจากอาชญากรรม มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว






















“


