
สำหรับกฎกระทรวงดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้กับผู้ประกอบการฟาร์มไก่ไข่ โดยฟาร์มที่เลี้ยงไก่ไข่ตั้งแต่จำนวน 100,000 ตัวขึ้นไป ให้มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป คือวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 ส่วนฟาร์มที่เลี้ยงไก่ไข่ตั้งแต่จำนวน 1,000 ถึง 99,999 ตัว ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 5 ปี นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป คือวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563) ซึ่งหากผู้ประกอบการรายใดไม่ปฏิบัติตาม จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย
ทั้งนี้ มกอช. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำมาตรฐานบังคับดังกล่าวไปสู่ผู้ปฏิบัติ จึงจัดสัมมนาโครงการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มไก่ไข่เป็นมาตรฐานบังคับ (มกษ.6909-2562) เพื่อให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในข่ายที่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงดังกล่าว มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 และสามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง โดยมีผู้ประกอบการฟาร์มไก่ไข่จากทั่วประเทศและเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์ เข้าร่วมสัมมนา ณ โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ โดยการสัมมนาครั้งนี้ มีการให้ความรู้ด้านมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มไก่ไข่ (มกษ.6909-2562) หลักเกณฑ์ เงื่อนไขการตรวจประเมินสถานประกอบการ การขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ การแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานบังคับสำหรับฟาร์มไก่ไข่ การควบคุม ตรวจสอบ และเฝ้าระวังตามมาตรฐานสินค้าเกษตร นอกจากนี้ ยังมีหน่วยบริการเคลื่อนที่สำหรับให้คำปรึกษา รวมทั้งบริการรับคำขอเพื่อออกใบอนุญาตเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการฟาร์มไก่ไข่ให้สามารถดำเนินการขอใบรับรองได้ทันในวันที่กำหนด รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่มาตรฐานบังคับต่อไป
			
























