สถานการณ์น้ำในอ่างฯ มีน้อย ด้านค่าความเค็มยังคงเร่งผลักดันตามแผนฯ
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึง สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ทั่วประเทศว่า


หลังน้ำทะเลหนุน กรมชลประทาน ยังคงเร่งบริหารจัดการน้ำโดยดำเนินการลำเลียงน้ำจากแม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำป่าสัก เพื่อช่วยผลักดันค่าความเค็มออกสู่อ่าวไทยตามแผนฯ ที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง วันนี้(9 ม.ค. 62) แม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีประปาสำแล เวลา 08.00 น. วัดได้ 0.23 กรัมต่อลิตร (เกณฑ์เฝ้าระวัง 0.25 กรัมต่อลิตร มาตรฐานเพื่อการผลิตน้ำประปาไม่เกิน 0.50 กรัมต่อลิตร) แม่น้ำท่าจีน ที่สถานีปากคลองจินดา เวลา 08.00 น. วัดได้ 0.24 กรัมต่อลิตร (เกณฑ์เฝ้าระวังสำหรับกล้วยไม้ 0.75 กรัมต่อลิตร เกณฑ์เฝ้าระวังเพื่อการเกษตรไม่เกิน 2 กรัมต่อลิตร) ส่วนแม่น้ำปราจีน-บางปะกง ที่สถานีปราจีนบุรีเวลา 07.00 น. วัดได้ 0.07 กรัมต่อลิตร (เกณฑ์เฝ้าระวังเพื่อการเกษตรไม่เกิน 2 กรัมต่อลิตร) และ แม่น้ำแม่กลอง ที่สถานีปากคลองดำเนินสะดวกเวลา 07.00 น. วัดได้ 0.16 กรัมต่อลิตร (เกณฑ์เฝ้าระวังสำหรับกล้วยไม้ 0.75 กรัมต่อลิตร เกณฑ์เฝ้าระวังเพื่อการเกษตรไม่เกิน 2 กรัมต่อลิตร)
กรมชลประทาน ดำเนินการบริหารจัดการน้ำตามแผนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความเสถียรภาพ
และความมั่นคงด้านน้ำ พร้อมจัดเตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำ รถยนต์บรรทุกน้ำ และเครื่องจักกลอื่นๆ รวม 2,175 หน่วย อาทิเครื่องสูบน้ำ 1,851 เครื่อง รถบรรทุก 324 คัน กระจายอยู่ตามสำนักงานชลประทานและพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนให้มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนใช้น้ำตามแผน อย่างประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุด หากประชาชนที่ประสบกับปัญหาภัยแล้งหรือขาดแคลนน้ำ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากโครงการชลประทานในพื้นที่ของท่านได้ตลอดเวลา


























