

เป็นการแก้ไขปัญหาที่มีมาในอดีต ทั้งการโอนสิทธิ์ ขายสิทธิ์ในที่ดินที่รัฐจัดให้ การขาดแคลนน้ำ ดินมีปัญหา ขาดการพัฒนาอาชีพ ทำให้เกิดการละทิ้งที่ดิน อย่างไรก็ตาม การประชุมในครั้งนี้ จึงเป็นการตอบสนองต่อนโยบายที่จะเร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้บรรลุผลสำเร็จเร็วยิ่งขึ้น และให้ปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมร่วมมือกับส่วนราชการอื่นๆในการพัฒนาอาชีพอีกด้วย” ร้อยเอก ธรรมนัสกล่าว
ทั้งนี้ กรมพัฒนาที่ดินได้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ ให้ได้ประกอบอาชีพทางการเกษตรอย่างมั่นคง ใช้ที่ดินให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ มีการอนุรักษ์ดินและน้ำ แต่เนื่องจากที่ดินที่นำมาจัดสรรมีหลากหลายประเภทที่ดิน ได้แก่1.ป่าสงวนแห่งชาติ 2.ป่าชายเลน 3.ป่าไม้ถาวร ตามพรบ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 4.เขตปฏิรูปที่ดิน 5.ที่ดินสาธารณประโยชน์ 6.ที่นิคมสหกรณ์ 7.ที่นิคมสร้างตนเอง และ8.ที่ราชพัสดุ จึงทำให้มีความหลากหลายของลักษณะดิน หลากหลายปัญหา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ทั่วประเทศและเจ้าหน้าที่ในส่วนกลางที่สนับสนุนได้เข้าใจและมีแนวทางการปฏิบัติงานที่ไปในทิศทางเดียวกัน โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ อันจะนำไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีของเกษตรกร และความมั่นคงยั่งยืนในเรื่องการใช้ที่ดินของประเทศต่อไป


























