กรมการแพทย์ เตรียมปรับแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด-19

0
6173

อธิบดีกรมการแพทย์ เผย ในวันพรุ่งนี้ เตรียมประชุม ปรับแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในกลุ่มผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง ในการให้ยาฟาวิพิลาเวียร์ อาจทำให้ ไทยมีความต้องการใช้ยา ชนิดดังกล่าว ถึงเดือนละ80,000เม็ด ขณะเดียวกัน ยืนยันไทยมียาเพียงพอ โดยภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งประสานในการนำเข้ายาฟาวิพิลาเวียร์

นพ. สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ / ร้อยละ60 อาการไม่รุนแรง อาการคล้ายไข้หวัด ปอดปกติ / ร้อยละ 10 ปอดอักเสบ ไม่รุนแรง /ร้อยละ3 ปอดอักเสบรุนแรง

แบ่งการรักษาตามอาการ
กลุ่มไม่มีอาการ สังเกตอาการในรพ. 2-7วัน ถ้ายังไม่มีอาการเพิ่มเติม เอกซเรย์ปอดแล้ว ปกติ ให้ย้ายผู้ป่วยไปยัง สถานที่ที่ราชการจัดให้/ กลุ่มอาการไม่รุนแรง ทีการให้ยา ยาต้านไวรัส รักษาในโรงพยายาล หากอาการดีขึ้น ไอนิดหน่อย ย้ายไปยัง สถานที่ที่ราชการจัดไว้ให้ / ปอดอักเสบไม่รุนแรง ยาต้านไวรัสกับยาต้านมาลาเรีย (ยังไม่ให้ ฟาวิพิลาเวียร์)/ ปอดอักเสบรุนแรง ให้ยาต้านไวรัสฟาวิพิลาเวียร์

เบื้องต้น ในไทย มีการใช้ยาฟาวิพิลาเวียร์ มากถึง2,000 เม็ด ต่อวัน ในส่วนที่จะมีการให้ยาฟรีกับประเทศไทย ย้ำ จะใช้ในกลุ่มเฉพาะการศึกษาวิจัย

ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมหารือถึงแนวทางการรักษาผู้ป่วยที่อาจจะปรับเกณฑ์ในกลุ่มผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงที่จะมีการให้ยาต้านฟาวิพิลาเวียร์ ให้เร็วขึ้น จากเดิม 40,000-50,000เม็ด อาจเพิ่มขึ้น เป็น 70,000-80,000เม็ดต่อเดือน ที่ผ่านมาผู้ป่วยติดเชื้ออาการรุนแรง มีการให้ยาฟาวิพิลาเวียร์ อยู่ที่ประมาณ70เม็ดต่อวัน

ด้าน นพ. ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ระบุว่า ตอนนี้มีการนำเข้ายา ฟาวิพิลาเวียร์แล้ว 87,000 เม็ด โดยกระจายไปแล้วกว่า 30,000เม็ด ในเขต สุขภาพ12แห่งทั่วประเทศ โรงพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทย์ โรงพยาบาลสังกัด กทม. และ เอกชน วางเป้าหมายในการจัดหาอยู่ที่ 350,000 เม็ด

สำหรับ แผนการจัดหาตอนนี้ได้ สั่งซื้อยาฟาวิพิลาเวียร์จากจีน 100,000เม็ด โดยจะส่งมอบในวันพรุ่งนี้ 100,000เม็ด / แลัสั่งซื้อจากญี่ปุ่น 100,000เม็ด

โดย ข้อบ่งชี้ในการให้ยา ต้องเป็นผู้ป่วยในรายที่มีอาการรุนแรง และผู้ป่วยวิกฤตที่ต้องรีบในการให้ยา

ยืนยัน การจัดหายา และกระจายยา ทำตามระบบ และเป็นไปอย่างดี ไม่รอข่าวที่ไม่แน่นอน อภ.เป็นหน่วยงานหลักในความมั่นคงยา

ขณะที่ นพ. วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม ระบุว่า ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้ มีจำนวนยา 7 รายการ มีการสำรองยาไว้เพียงพอ ในส่วน ยาฟาวิพิลาเวียร์ ยังไม่มีการผลิตเองในประเทศ ยังคงเป็นการนำเข้า มีการจัดหามาตั้งแต่เดือนมกราคม ยอมรับ ได้จำนวนยามาไม่มาก เนื่องจากทั่วโลกมีความต้องการยาชนิดนี้เช่นเดียวกัน

ปัจจุบัน มีประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของยาชนิดนี้ และเป็นประเทศหลักในการผลิต  รวมถึงประเทศจีนที่มีการผลิต ซึ่งจาก จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศ ที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นที่มา ที่ประเทศไทยจำเป็นต้องขอแบ่งซื้อยา จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเองก็จำเป็นต้องใช้ยาชนิดนี้ในการรักษาผู้ป่วยในประเทศ เช่นเดียวกัน