เฉลิมชัยสั่ง!! หน่วยงานในสังกัด ทั่วประเทศ เตรียมพร้อมตลอด 24ชม.รับพายุลูกใหม่เข้าไทยพรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สั่งการทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯเตรียมพร้อมตลอด 24 ชม.โดยเฉพาะกรมชลประทาน ทั้ง 17 สำนักงานชลประทานทั่วประเทศ รับมือพายุดีเปรสชั่นจะเข้าอีกลูกวันที่ 3 ก.ย.นี้ ส่งผลมีฝนตกหนักพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษในส่วนพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมจากพายุโพดุล อยู่แล้วจะเกิดอุทกภัยซ้ำได้ จึงสั่งกรมชลประทาน เร่งนำเครื่องมือ เครื่องจักร ออกมาทั้งหมดเพื่อระบายน้ำท่วมให้ไวที่สุด พร้อมเปิดทางน้ำทำทำนบกั้นน้ำ ไม่ให้ท่วมซ้ำพื้นที่ป้องกันบรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้านให้ได้เร็วที่สุด โดยทิศทางของพายุลูกใหม่ ตนเห็นแนวพายุใกล้เคียง กับโพดุล เชื่อว่าความเสียหายน้อยกว่า แต่ระวังฝนตกซ้ำที่มีน้ำท่วม ในส่วนตัวเมือง ประสาน กระทรวงมหาดไทย สูบน้ำออกจากตัวชุมชน โดยขณะนี้ให้ระดมเครื่องมือเคลียร์ทางน้ำ เปิดทางน้ำให้ไหลสะดวก เร่งระบายได้เร็วช่วยลดความเสียหายได้


ทั้งนี้ กรมส่งเสริมเกษตร จะสำรวจความเสียหายพื้นที่เกษตรจากภัยแล้ง หรืออุทกภัย อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยจังหวัดประกาศเขตภัยพิบัติ เพราะในพื้นที่แปลงเดียว จะไม่มีการเสียหายสองกรณีซ้ำซ้อนกัน ซึ่งพื้นที่ประกาศเขตภัยแล้ง เช่นจ.ขอนแก่น ได้สำรวจไปแล้วหากเกษตรกรเสียหายสิ้นเชิงเกิน50% จะได้รับชดเชยรายละไม่เกิน30ไร่ อาทิ นาข้าวไร่ละ1,113บาท พืชไร่ 1,148บาท พืชอื่นๆ1,690บาท ทั้งนี้เกษตรกร ยังสามารถเข้าโครงการประกันรายได้ ตามฤดูกาลที่ยังมีผลผลิตเหลือจากความเสียหายมาเข้าโครงการได้ ซึ่งจะมีการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ไว้ล่วงหน้า จะเป็นตัวควบคุม พื้นที่เกษตร จำนวนเกษตรกร ทำให้การสำรวจเกิดความแม่นยำ เมื่อผู้ว่าราชการ ประกาศเขตภัยพิบัติ พื้นที่ไหนเสียหายอย่างไร เสียบางส่วน หรือเสียหายทั้งหมด ทำให้เร่งสำรวจได้รวดเร็วหลังน้ำลด ตนได้สั่งเป็นคำสั่งให้ทุกพื้นที่เกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ ต้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจริง ใครโดนภัยแล้ง ถูกตัดออกไป ไม่ใช่รับสองเด้ง เมื่อสำรวจความเสียหายจากภัยแล้งและอุทกภัยจะเสนอของบจาก ครม.มาชดเชยเกษตรกร สำหรับงบ15,800ล้าน เป็นงบกลางให้เรื่องแก้ภัยแล้ง ใช้ในการขุดลอกแห่งน้ำ เพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำ 76 จังหวัด ที่รองรับอุทกภัยด้วย
“วันนี้ไม่ต้องห่วงการทำงานของข้าราชการ ผมสั่งให้ช่วยเหลือเกษตรกรมากที่สุด แต่เรื่องภัยธรรมชาติ ควบคุมไม่ได้ ต้องร่วมมือแก้ไขป้องกัน ผ่านไปให้ได้ ให้เกษตรกรอยู่ในอาชีพได้ดี ซึ่งมีน้ำเติมเข้าเขื่อนใหญ่ๆ ดีขึ้นในข่าวร้าย ไม่ใช่ทั้งหมด ตอนนี้ต้องมาบริหารน้ำเข้าเขื่อนให้มากและ จัดการน้ำอย่างมีคุณค่ามากที่สุด ไม่ใช่ระบายปล่อยทิ้งปล่อยขวาง”นายเฉลิมชัย กล่าว

สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ กรมส่งเสริมการเกษตรยึดหลักปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 โดยมีหลักเกณฑ์ช่วยเหลือเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้ก่อนเกิดภัย ตามจำนวนพื้นที่จริงที่ได้รับความเสียหาย รายละไม่เกิน 30 ไร่ ได้แก่ ข้าว อัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท และพืชสวนและอื่น ๆ อัตรา ไร่ละ 1,690 บาท ทั้งนี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติ และผู้ว่าราชการจังหวัดจะประกาศเขตพื้นที่การให้ความช่วยเหลือฯ เกษตรกรต้องยื่นแบบความจำนงขอรับการช่วยเหลือ (กษ 01) โดยให้ผู้นำท้องถิ่นรับรอง ก่อนจะมีการตรวจสอบทะเบียนเกษตรกร และพื้นที่เสียหายจริง เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป

#AllnewsExpress #เกษตร #รับมือพายุ


























