“รองนายกฯ ธรรมนัส” เปิดปฏิบัติการ “Kick off” ปิดป้ายเตือนผู้ครอบครองที่ดินส.ป.ก. ที่ไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูป ย้ำตรวจเข้ม–ยึดคืนทุกแปลงหากพบครอบครองมิชอบ พร้อมดันกระบวนการจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรผู้ยากไร้ เดินหน้า 27 จังหวัดทั่วประเทศ


ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวต่อว่า ต่อไปนี้การตรวจสอบการถือครองที่ดินและการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อยึดคืนที่ดินจากนายทุนและเร่งรัดการจัดหาที่ดินทำกินให้เกษตรกรเพื่อนำไปจัดสรรและกระจายการถือครองให้กับเกษตรกรอย่างแท้จริง สำหรับปัญหาที่ดินในจังหวัดราชบุรี ได้มอบหมายสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ดำเนินการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ที่มีการถือครองที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กระทำฝ่าฝืน หรือไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด จำนวน 165 ราย 166 แปลง เนื้อที่ประมาณ 6,500 ไร่อยู่หมู่ที่ 10 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ตั้งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน โครงการป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมายเลข 85 ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ป่าสวนแห่งชาติ ที่กรมป่าไม้ได้ส่งมอบพื้นที่ให้นำมาปฏิรูปที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2536 ส.ป.ก.ราชบุรี ได้ดำเนินการเพิกถอนการจัดที่ดินหรือให้เกษตรกรสิ้นสิทธิการทำประโยชน์ในที่ดินและนำที่ดินมาจัดให้กับเกษตรกรผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ซึ่งขณะนี้ ส.ป.ก.ราชบุรีได้ประกาศให้เกษตรกรที่มีคุณสมบัติยื่นคำขอรับการจัดที่ดินแล้ว ในระยะแรก เนื้อที่ 2,088 ไร่ มีผู้ยื่นคำขอ จำนวนกว่า 3,300 คำขอ อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติและดำเนินการตามขั้นตอนประชาคมหมู่บ้านและปรับพื้นที่ที่ดินให้เหมะสมกับการเกษตรและล้มปาล์ม คาดว่าจะสามารถจัดที่ดินให้กับเกษตรกรจำนวน 152 ราย เนื้อที่ 1,520 ไร่ และพื้นที่แหล่งน้ำและพื้นที่กันไว้เป็นพื้นที่ป่ากันชน ทั้งนี้ เกษตรกรจะได้รับสิทธิการเช่าที่ดิน ในอัตราไร่ละ100 บาทต่อปี

สำหรับพื้นที่ราชบุรี ตรวจสอบพบว่าพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ที่ยังไม่เข้าสู่กระบวการปฏิรูปที่ดิน เนื้อที่ประมาณ 3,915 ไร่ อยู่หมู่ที่ 13 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ตั้งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน โครงการป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมายเลข 85 ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ป่าสวนแห่งชาติที่กรมป่าไม้ได้ส่งมอบพื้นที่ให้นำมาปฏิรูปที่ดิน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2536 เพื่อการดำเนินการเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดและนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรี (ส.ป.ก.ราชบุรี) จึงได้ปิดป้ายประกาศให้ผู้ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน หรือได้โต้แย้งแสดงสิทธิกรณีมีเอกสารสิทธิตามกฎหมายอื่น หากการถือครองที่ดินไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขที่จะได้รับการจัดที่ดินจาก ส.ป.ก.จะได้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป


ส.ป.ก.กำลังเร่งเดินหน้าตรวจสอบการถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตป ฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ พร้อมทั้งให้มีการตรวจสอบฐานข้อมูลการจัดที่ดินและข้อมูลแผนที่พื้นที่ที่ยังไม่เข้าร่วมกระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและพื้นที่ที่มีการครอบครองที่ดินในลักษณะเป็นที่ดินแปลงใหญ่ ทั้งนี้ ส.ป.ก.จะต้องมีการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงการใช้ประโยชน์และการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่จังหวัดข้างต้น โดยส.ป.ก.จังหวัด หากพบว่ามีการครอบครองที่ดินในลักษณะเป็นที่ดินแปลงใหญ่และไม่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้ ส.ป.ก.จังหวัด มีประกาศแจ้งให้ผู้ครอบครองที่ดินเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไว้ในที่เปิดเผย เพื่อแจ้งให้ผู้ครอบครองที่ดินเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรร ม อีกทั้งต้องดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาสิทธิในที่ดินรัฐโดยการปรับปรุงหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) เป็นโฉนดเพื่อการเกษตรให้สอดคล้องกับระเบียบกฎหมายที่ได้ดำเนินการแก้ไขต่อไป” เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวย้ำ






























