ญี่ปุ่น-ไทยร่วมผลักดันเกษตรกรรมลดก๊าซเรือนกระจก ผ่านระบบฉลากสิ่งแวดล้อม “Mieruka” มุ่งสู่เป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ พร้อมจับตา “ผำ” ถูกจัดเป็นศัตรูพืชกักกันใหม่ ญี่ปุ่นห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรไทยที่ปนเปื้อน

0
73402

นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า มกอช. ได้หารือกับสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของญี่ปุ่น (MAFF) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้โครงการความร่วมมือทางวิชาการ JTEPA “Japan – Thailand Knowledge Exchange on Greenhouse Gas Reduction Labelling System” ซึ่งมุ่งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตรกรรม ผ่านระบบฉลากสิ่งแวดล้อม หรือ “Mieruka” เพื่อส่งเสริมการบริโภคสินค้าเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


ในการประชุมครั้งนี้ นางโยชิดะ ยูริ รองผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมโลก กองยุทธศาสตร์ระบบอาหารยั่งยืน ภายใต้ MAFF เข้าร่วมในฐานะตัวแทนฝ่ายญี่ปุ่น โดยได้กล่าวถึงบทบาทของระบบ “Mieruka” ในการช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมของสินค้าเกษตรได้อย่างโปร่งใส ขณะเดียวกันฝ่ายไทยได้เสนอความคืบหน้าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตร เช่น การจัดการปุ๋ยคอก (Manure Management) การพัฒนาสารปรุงแต่งอาหารสัตว์ (Feed Additives) และการใช้ระบบจัดการน้ำแบบ “เปียกสลับแห้ง” (Alternate Wetting and Drying: AWD) ในการปลูกข้าว

โครงการนี้ได้จัดสัมมนา อบรมเชิงปฏิบัติการ และลงพื้นที่ 5 แห่งในเชียงราย พิษณุโลก และสุพรรณบุรี เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการปลูกข้าวแบบ AWD พร้อมทั้งผลักดันการรับรองสินค้าและฉลาก “Mieruka” เข้าสู่ตลาด โดยตั้งเป้าขยายจำนวนเกษตรกรที่ได้รับการรับรองเป็น 1,000 ราย และเพิ่มจำนวนจุดจำหน่ายข้าวฉลาก Mieruka ให้ได้ 50 แห่งภายในปีงบประมาณ 2569 เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ “Carbon Net Zero”
นอกจากนี้ มกอช. ยังได้หารือกับญี่ปุ่นเรื่องการทบทวนข้อกำหนดการนำเข้า “ผำ” และผลิตภัณฑ์จากผำ หลังญี่ปุ่นประกาศยกระดับสถานะของผำตามระเบียบกักกันศัตรูพืช โดยระบุให้พืชในสกุล Wolfia spp. โดยเฉพาะ Wolfia globosa ที่นิยมบริโภคในไทย เป็นศัตรูพืชกักกัน หากพบปนเปื้อนแม้เพียงเล็กน้อยในสินค้าเกษตรหรือผลิตภัณฑ์อาหาร จะถูกห้ามนำเข้าโดยทันที ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทยที่เกี่ยวข้องกับผำและผลิตภัณฑ์จากผำ
ทั้งนี้ ด้านไทยได้เตรียมแนวทางจัดการไรศัตรูพืชในผำทั้งในระดับการผลิตเพื่อบริโภค และการเพาะเลี้ยงเป็นอาหารสัตว์น้ำ พร้อมเสนอข้อมูลต่อญี่ปุ่นเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับมาตรฐานด้านอาหาร ส่วนฝ่ายญี่ปุ่นได้แสดงความพร้อมในการให้ข้อมูลเพิ่มเติม และสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกผำหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในอนาคต รวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอาหาร

“ข้อกำหนดใหม่ของญี่ปุ่นถือเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ประกอบการไทยที่เกี่ยวข้องกับผำเร่งศึกษามาตรการกักกันศัตรูพืชและปรับกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อให้การส่งออกดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นและตอบสนองความต้องการของตลาดญี่ปุ่น” เลขาธิการ มกอช. กล่าว