กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานศรีสะเกษ เดินหน้าเตรียมพร้อมรับมือพายุ “บัวลอย” และปฏิบัติตาม 9 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2568 ของ สทนช. อย่างเคร่งครัด วางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ หวังรองรับสถานการณ์และลดผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะลุ่มน้ำโขง–ชี–มูลที่เป็นเส้นเลือดหลักของภาคอีสาน ตามนโยบายของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ กล่าวว่า ปัจจุบันแม่น้ำมูลในเขตจังหวัดศรีสะเกษ ยังสามารถรองรับน้ำได้ แม้แม่น้ำชีจะมีระดับสูงขึ้น โดยได้เร่งระบายลงสู่แม่น้ำมูลอย่างต่อเนื่อง ส่วนแม่น้ำโขงยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ สามารถรองรับน้ำจากมูลได้ ด้านเขื่อนราษีไศลและเขื่อนหัวนา มีการปรับการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อช่วยพื้นที่ท้ายเขื่อนในเขต จ.อุบลราชธานี
นอกจากนี้ อ่างเก็บน้ำสำคัญตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา ห้วยติ๊กชู และอ่างเก็บน้ำด่านไอ แม้ว่าจะมีปริมาณเก็บกักเกิน 100% ซึ่งทางโครงการฯได้ทยอยระบายน้ำลงสู่ลำน้ำสาขาก่อนลงแม่น้ำมูลอย่างต่อเนื่อง
กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานศรีสะเกษ ยืนยันมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร เครื่องสูบน้ำ เครื่องจักร และเครื่องมือต่างๆ ประจำในพื้นที่เสี่ยง พร้อมเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้มากที่สุด