กรมส่งเสริมสหกรณ์จับมือชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันส่งเสริมจริยธรรมและธรรมาภิบาลในสหกรณ์นอกภาคการเกษตร หวังให้สหกรณ์ยึดหลักการบริหารจัดการที่ดี มีความถูกต้อง โปร่งใสและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกและการยอมรับจาก ทุกภาคส่วน

โอกาสนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้กล่าวปาฐกถา ในหัวข้อ “การเสริมสร้างธรรมาภิบาลในสหกรณ์” และมีการถ่ายทอดสัญญาณผ่านระบบ Zoom meeting ไปยังสำนักงานสหกรณ์จังหวัดและสหกรณ์นอกภาคการเกษตรที่เป็นเป้าหมายทั่วประเทศ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญในการแนะนำ ส่งเสริม กำกับ และดูแลสหกรณ์ทั่วประเทศ เพื่อให้ภายในปี 2570 จำนวนสหกรณ์นอกภาคการเกษตร มีความเข้มแข็งอยู่ในชั้น 1 และชั้น 2 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 โดยวางกรอบประเมินและกำหนดแนวทางการพัฒนาความเข้มแข็งสหกรณ์ ประกอบด้วย 4 มิติ ได้แก่ 1) ความสามารถในการบริการสมาชิก 2) ประสิทธิภาพในดำเนินธุรกิจ 3) ประสิทธิภาพในการจัดการองค์กร และ 4) ประสิทธิภาพของการบริหารงาน ซึ่งในมิติที่ 4 ประสิทธิภาพในการบริหารงานของสหกรณ์ จะมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถและสมรรถนะในการบริหารงานและธุรกิจของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร กำหนดตัวชี้วัดที่ประเมินถึงประสิทธิภาพการบริหารงานของคณะกรรมการสหกรณ์ พิจารณาจากการเกิดทุจริตและข้อบกพร่อง อาทิ ทุจริตบัญชี การเงิน การกระทำนอกกรอบวัตถุประสงค์ และพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่สหกรณ์

การประกาศเจตนารมณ์ในครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน สร้างความตระหนักรู้ของผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการสหกรณ์ว่า สหกรณ์ควรตั้งเป้าหมายการสร้างธรรมาภิบาลให้ชัดเจน และเป็นการดำเนินการภายใต้แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ที่กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาระบบสหกรณ์ให้มั่นคงเป็นที่พึ่งของสมาชิก สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับชุมชน โดยมุ่งหวังยกระดับการดำเนินงานของสหกรณ์ทั่วประเทศมีความเข้มแข็งในระดับมาตรฐานเพิ่มขึ้น ธรรมาภิบาลในสหกรณ์ (Cooperative Governance) จึงเป็นกลไกและหลักการบริหารจัดการสหกรณ์ที่ดี ยึดถือความโปร่งใส ความรับผิดชอบและความมีส่วนร่วมของสมาชิก เพื่อให้สหกรณ์ดำเนินงานไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นองค์กรให้มีความเข้มแข็งและมั่นคงในอนาคตต่อไป



























