ไทยและจีนบรรลุข้อตกลงครั้งใหญ่ เพิ่มจุดนำเข้า–ส่งออกผลไม้รวม 5 ด่านภายใต้ พิธีสารขนส่งผลไม้ผ่านประเทศที่สาม เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง เพิ่มช่องทางการส่งออกใหม่ ลดความแออัดด่านเดิม และกระจายผลไม้ไทยสู่มณฑลต่าง ๆ ของจีนได้รวดเร็วขึ้น สอดรับมูลค่าส่งออกผลไม้สดไทยไปจีนปี 2567 ที่พุ่งกว่า 1.8 แสนล้านบาท และยังเป็นตลาดหลักที่เติบโตต่อเนื่อง
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เห็นชอบร่วมกันในการปรับปรุงภาคผนวกของ พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการขนส่งผลไม้ผ่านประเทศที่สาม โดยเพิ่มด่านนำเข้า–ส่งออกผลไม้ของทั้งสองประเทศ เพื่อยกระดับความคล่องตัวด้านการขนส่งสินค้าเกษตรและขยายโอกาสทางการตลาด
ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
(มกอช.) ประสานงานและหารือกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) มาอย่างต่อเนื่อง จนบรรลุข้อตกลงเพิ่มด่านในครั้งนี้ โดย ฝ่ายไทย เพิ่ม 3 ด่าน ได้แก่ ด่านทุ่งช้าง จังหวัดน่าน, ด่านบ้านฮวก จังหวัดพะเยา และด่านภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ขณะที่ ฝ่ายจีน เพิ่ม 2 ด่าน ได้แก่ ด่านเมิ่งคัง และ ด่านต๋าลั่ว ในมณฑลยูนนาน ทำให้ด่านในพิธีสารในการที่จะส่งออกผลไม้สดเพิ่มเป็น 9 ด่านฝั่งไทย และ 12 ด่านฝั่งจีน
นายอรรถกร กล่าวต่อว่า “การเพิ่มด่านครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเปิดเส้นทางขนส่งใหม่ เป็นการเพิ่มโอกาสและศักยภาพแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการในการลดต้นทุนการขนส่งของเกษตรกรในพื้นที่ ลดความแออัดของด่านเดิมในช่วงฤดูกาลผลไม้ ในการกระจายสินค้าไปยังมณฑลต่าง ๆ ของจีน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผลไม้ไทยในตลาดจีนอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะเกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมคือ ผู้ประกอบการมีตัวเลือกเส้นทางขนส่งมากขึ้น ลดปัญหาคอขวดในช่วงที่มีผลไม้ส่งออกไปยังจีนมาก และช่วยกระจายผลผลิตเข้าสู่จีนได้รวดเร็วและทั่วถึงยิ่งขึ้น”
นายชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า พิธีสารฉบับนี้ลงนามเมื่อ 13 กันยายน 2564 ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย กับ GACC เพื่อกำหนดมาตรการกักกันโรคและตรวจสอบผลไม้ที่ส่งออก–นำเข้าทางบกผ่านประเทศที่สาม โดยไม่จำกัดเส้นทาง และสามารถปรับเพิ่มด่านนำเข้า-ส่งออกได้หากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ภายใต้บันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชไทย–จีน ซึ่งมี มกอช. เป็นผู้ประสานหลักของไทย ซึ่งการส่งออกผลไม้สดของไทยไปจีนในปี 2567 คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.8 แสนล้านบาท โดยจีนยังคงเป็นตลาดหลักของผลไม้ไทย และมีบทบาทสำคัญต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศ ทั้งนี้ หลังจากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้เพิ่มด่านส่งออก-นำเข้าทั้ง 5 ด่านแล้ว จะสามารถนำเข้าส่งออกผลไม้สดผ่านด่านเหล่านี้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป อันจะเป็นการเพิ่มมูลค่าและขยายตลาดการค้าสินค้าเกษตรของไทยต่อไปในอนาคต