กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ยกระดับเกษตรกรไทยสู่ผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรม ผ่าน เกษตรดิจิทัล หรือ Digital Agricultural Performance Index (DAPI)

0
70940

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ทำถึง สร้างมิติใหม่ให้วงการเกษตรไทยด้วยเกษตรแม่นยำเต็มระบบ ยกระดับเกษตรกรไทยสู่ผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมได้อย่างสมบูรณ์แบบเผยตัวเลขดัชนีสะท้อนประสิทธิภาพการประยุกต์ใช้เกษตรดิจิทัล หรือ Digital Agricultural Performance Index (DAPI) เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 35 ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ร้อยละ 15 ผลิตภาพเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 19 เล็งปีหน้า จัดใหญ่ขยายผลสู่เกษตรกรหัวขบวนทั่วประเทศ

วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ดร.กิตติโชติ ศุภกำเนิด ผอ.กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้ประกอบการ (เกษตรกร) ผู้ร่วมกิจกรรม 20 ราย ที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมกิจกรรมจาก 6 จังหวัด ทั่วประเทศ ในกิจกรรมพัฒนาเกษตรแม่นยำด้วยเทคโนโลยีอวกาศ โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับสมาคมส่งเสริมดิจิทัลเพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรม หรือ DPAI ซึ่งได้นำเครื่องมือและเทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ เช่นสถานีตรวจวัดสภาพภูมิอากาศทางการเกษตร เซนเซอร์ทางการเกษตรหลากหลายชนิด ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของนักวิจัยด้านการเกษตรทั่วโลก รวมถึงการนำเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ (GIS) ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม ที่ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์กรมหาชน) หรือ GISTDA ผ่านแอพลิเคชั่นแมลงปอ หรือ DargonFly เรียนรู้การใช้โดรนเพื่อการเกษตรและเทคนิค NDVI ช่วยวิเคราะห์สุขภาพพืช ร่วมกับ เทคโนโลยี Ai และนวัตกรรมทางด้านจุลินทรีย์เฉพาะทาง ที่ผลิตด้วยหลักวิทยาศาสตร์โดยมีงานวิจัยรองรับของศาสตราจารย์ ดร.เกษม สร้อยทอง มาใช้ในการฟื้นฟูดิน แก้ปัญหาแมลงและโรคพืช นอกจากนี้ยังเชิญผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา รวมถึงด้านกลยุทธ์การตลาด และเทคโนโลยี Blockchain เพื่อร่วมพัฒนาออกแบบโซลูชั่นแก้ปัญหา ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและรายได้ ให้แก่ผู้ร่วมกิจกรรมได้ครบตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน  เพื่อเติมเต็มช่วยเกษตรกรได้บรรลุเป้าหมาย เพิ่มศักยภาพและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการประกอบธุรกิจเกษตรเพิ่มมากขึ้น ผ่านการให้คำปรึกษาได้อย่างตรงความต้องการ พาผู้เข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้ ทั้งทฤษฎีและลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้เข้าใจ เกิดทักษะ ความชำนาญ จนเกิดเป็นองค์ความรู้เฉพาะรายที่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ ด้วยการจัดการทรัพยากรที่แม่นยำตัดสินใจได้อย่างมั่นใจด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและทันเวลา เข้าถึงตลาดมูลค่าสูง ด้วยมาตรฐานและความน่าเชื่อถือ พัฒนาต่อยอดจริงได้ด้วยตนเอง พร้อมเป็นต้นแบบให้เกษตรกรรายอื่นได้

กิจกรรมนี้ใช้เวลาทั้งสิ้น 150 วัน มีการนำเกณฑ์ดัชนีสะท้อนประสิทธิภาพการประยุกต์ใช้เกษตรดิจิทัล หรือ Digital Agricultural Performance Index มาประเมินผู้เข้าร่วมโครงการทั้ง 20 ราย เมื่อสิ้นสุดโครงการพบว่า ระสิทธิภาพการประยุกต์ใช้เกษตรดิจิทัลของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้น เฉลี่ยร้อยละ 35 การนำเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับการทำการเกษตรแบบดั้งเดิมนั้นช่วยลดต้นทุนการผลิตได้เฉลี่ยร้อยละ 15 และคาดว่าจะมีผลิตภาพเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 19 ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นกิจกรรมที่เกิดคุณค่าและสร้างประโยชน์ ด้านการเพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ และลดต้นทุน อย่างชัดเจน เป็นผลสำเร็จที่จับต้องได้ และในงานวันนี้ กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม ได้นำเทคโนโลยีที่ใช้ในกิจกรรม รวมถึงได้นำผลลัพธ์ความสำเร็จของผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 20 กิจการ มาแสดงให้แก่ผู้เข้าร่วมงานได้ชมด้วย

ในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น Success Case จำนวน 4 ราย ได้แก่ คุณชนัญญา เชวงโชติ  จากสวนลุงชะเอม จังหวัดราชบุรี ได้รับรางวัลความเป็นเลิศด้านการจัดการเกษตรแม่นยำเชิงนิเวศ ,คุณศีลวัต จีรวงศ์ จากบริษัท สวนทวีทรัพย์ ฟู้ด จำกัด จังหวัดชุมพร ได้รับรางวัลความเป็นเลิศด้านการบริหารธุรกิจเกษตรแบบองค์รวม , คุณธาราพงศ์ วงศ์วัฒนากิจ จากสวนการ์เดนเนอร์เฮ้าส์ จังหวัดราชบุรี ได้รับรางวัลความเป็นเลิศด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ , คุณสุพเจตน์ สินธุพัฒน์ จากบริษัท วิชชุสันต์ จำกัด สวนทุเรียนแม่น้ำภูเขา จังหวัดจันทบุรี ได้รับรางวัลความเป็นเลิศด้านการจัดการเกษตรอุตสาหกรรม

หลังจากการมอบรางวัล Success Case มีการเสวนาจากเกษตรกรวัยเก๋า ที่เป็นปราชญ์เกษตรกร เกษตรกรดีเด่น เกษตรกรตัวอย่าง ที่ได้มีโอกาสเรียนรู้ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม ร่วมเสวนาในครั้งนี้ด้วย  ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์อันเป็นภูมิปัญญาด้านการทำการเกษตรดั้งเดิมของรุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ช่วยขับเคลื่อนอาชีพเกษตรกรให้เป็นเกษตรอุตสาหกรรม เกษตรสมัยใหม่ได้อย่างน่าชื่นชม  สร้างความมั่นใจในเส้นทางของเกษตรกรมืออาชีพให้คนรุ่นใหม่

ดร.กิตติโชติ กล่าวว่ากิจกรรมนี้ อยู่ภายใต้โครงการยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรม ที่นำเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำที่มากที่สุดเท่าที่กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมเคยจัดกิจกรรมมา ใช้แนวคิด“Nested Approach” เชื่อมโยงข้อมูลจากเทคโนโลยี IoT หลากหลายระดับ เป็นการบูรณาการข้อมูลแบบองค์รวม เป็นการทำการเกษตรที่ใช้ข้อมูลยกระดับช่วยการตัดสินใจที่แม่นยำ หรือ Data Driven Solution อย่างแท้จริง พร้อมพัฒนาระบบ AI Tools ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและแก้ปัญหา ให้แก่เกษตรกร เป็นการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีการเกษตรมาพัฒนาเกษตรกร Smart Farmer หรือนักธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ แนะนำการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยในการแก้ปัญหาการทำการเกษตรที่ถูกต้อง เป็นย่างก้าวที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมสู่อนาคตด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในทุกขั้นตอน ให้เกิดประโยชน์ ใช้ศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบต้นน้ำคุณภาพ สร้างประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการในการแข่งขันสู่ระดับสากล อันเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรม 5.0 ของ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

คุณกำพล โชคสุนทสุทธิ์ นายกสมาคมส่งเสริมดิจิทัลเพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรม หรือ DPAI ผู้รับหน้าที่ดำเนินโครงการนี้ กล่าวว่า กิจกรรมนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้งสมาชิกของสมาคมฯ และเจ้าของเทคโนโลยีทางการเกษตรหลายราย ที่ต้องการสร้างตัวอย่างความสำเร็จของเกษตรแม่นยำหรือ Precision Agriculture ในประเทศไทยร่วมกัน เพื่อให้ผู้ที่สนใจ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการเกษตรทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สถาบันเกษตร องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแม้แต่เกษตรกรทั่วไป ได้เข้าถึงองค์ความรู้นี้อย่างมั่นใจว่า ประเทศไทยนอกจากจะตั้งอยู่บนทำเลภูมิศาสตร์ที่ทำการเกษตรได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกแล้ว คนไทยเรามีความสามารถที่จะพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีการทำการเกษตรเพื่อเป็นผู้นำด้านเกษตรแม่นยำ เกษตรอัจฉริยะในภูมิภาค และสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้อย่างไม่น้อยหน้าใคร  สมาคม DPAI พร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มี ขยายความร่วมมือไปยังหน่วยงานภาครัฐที่มีพันธกิจดูแลช่วยเหลือเกษตรกร ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพ หรือแม้แต่เกษตรกรในทุกระดับ ที่ต้องการความรู้ด้านเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำไปประยุกต์ใช้ต่อยอดขยายผล รวมถึงสามารถไปเยี่ยมชมพูดคุยกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ได้ทุกรายเพื่อดูงานจริงในแปลง แลกเปลี่ยนประสบการณ์พูดคุยกับทุกท่านได้ตลอดเวลา

คุณกำพล กล่าวต่อว่า จุดเปลี่ยนสำคัญของโครงการนี้ คือการทำเกษตรแบบใช้ข้อมูลนำ (Data Driven Agriculture) ไม่ใช่การทำตามความเคยชิน แต่เป็นการวินิจฉัยและจัดการปัญหาอย่างตรงจุดด้วยหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งิสูจน์เชิงประจักษ์แล้วว่า ภายหลังจากที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เข้าใจและปรับเปลี่ยนวิธีคิด ปรับแนวทางปฏิบัติใหม่ ไม่เพียงแค่ผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่ยังสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นองค์ความรู้ ที่จะนำไปพัฒนามากกว่าแค่การผลิตต้นน้ำแต่เพียงอย่างเดียว ยังนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดขยายโมเดลธุรกิจ มีความมั่นใจในอาชีพเกษตรกรเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นอกจากนั้น ไฮไลต์สำคัญของงานวันนี้ คือการเปิดตัวระบบ “Thailand Agricultural Digital Passport (ThADP)” ระบบติดตามสินค้าเกษตรด้วย QR Code ผสานเทคโนโลยี Ai และ Blockchain ที่ช่วยตรวจสอบคุณภาพและความโปร่งใสของสินค้าตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้บริโภค ลดข้อโต้แย้งทางการค้า ตรวจสอบย้อนกลับได้จริง สร้างความเชื่อมั่นระดับสากล

ในตอนท้าย ผอ.กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม ดร.กิตติโชติ ศุภกำเนิด กล่าวย้ำว่า จากความสำเร็จของกิจกรรมพัฒนาเกษตรแม่นยำด้วยเทคโนโลยีอวกาศในครั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จะต่อยอดขยายผลไปสู่เกษตรกรหัวขบวน ที่ทางกรมฯ ได้ดำเนินนโยบายมาก่อนหน้านี้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นการปฎิรูปทั้งระบบของภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ Ai ช่วยยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง