วันนี้ (16 ธ.ค. 67) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (Swoc) อาคาร 99 ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำกู
กรมชลประทาน ถนนสามเสน นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่
สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ (16 ธ.ค. 67) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 62,234 ล้าน ลบ.ม. (82% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เป็นน้ำใช้การได้ 38,292 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 21,137ล้าน ลบ.ม. ( 85% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) มีปริมาณน้ำใช้การได้กว่า 14,441 ล้าน ลบ.ม. ด้านผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2567/68 พบว่าทั้งประเทศมีการใช้น้ำไปแล้วกว่า 4,600 ล้าน ลบ.ม. (17% จากแผนฯ) เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 1,550 ล้าน ลบ.ม. (18% จากแผนฯ)

อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 16-18 ธ.ค. 67 นี้ ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้อีก จึงสั่งการให้สำนักงานชลประทานที่ 14-17 เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เร่งพร่องน้ำไว้รองรับปริมาณฝนที่จะตกลงมาอีกระลอก พร้อม ประสานความร่วมมือกับทางจังหวัดและหน่วยงานท้องถิ่น ในการจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมได้อย่างทันท่วงที ตามนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์



























