รองศาสตราจารย์ดรุณีชุณหะวัตที่ปรึกษาคณะกรรมการเครือข่ายมิตรภาพรามาธิบดีผู้ริเริ่มจัดตั้งกลุ่มช่วยเหลือตนเอง (Self Help Group) และเครือข่ายมิตรภาพบำบัดรามาธิบดีกล่าวว่า Self Help Group เป็นกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวของผู้ป่วยที่มีปัญหาคล้ายคลึงกันมีประสบการณ์คล้ายคลึงกันมาด้วยความสมัครใจเพื่อจะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างสมาชิกของกลุ่มกลุ่มในลักษณะนี้เป็นกลุ่มที่ผู้ป่วยเป็นเจ้าของกลุ่มเป็นประธานกลุ่มมีเจ้าหน้าที่ของกลุ่มซึ่งจะเรียกว่ากลุ่มช่วยเหลือตนเองเจ้าหน้าที่พยาบาลและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเป็นผู้อำนวยความสะดวกและเป็นที่ปรึกษาในเดือนตุลาคมพ.ศ. 2532 กลุ่มเราเริ่มดำเนินการเป็นกลุ่มแรกที่เรียกว่า Self Help Group กลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองตั้งแต่มกราคมพ.ศ. 2533 มีกลุ่มเดียวในรามาธิบดีคือกลุ่มผู้ไร้กล่องเสียงในพ.ศ. 2536 มีรองศาสตราจารย์มณฑาลิ้มทองกุลก็ได้จัดกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมขึ้นมาอีกกลุ่มชื่อว่ากลุ่มฟื้นฟูชีวิตใหม่หลังจากนั้นก็มีกลุ่มต่างๆเกิดขึ้นและได้ดำเนินการมาตลอดจนปีพ.ศ. 2549 ได้รับทุนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่มาดูแลและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีนโยบายที่สนับสนุนการตั้งศูนย์มิตรภาพบำบัด
“เมื่อก่อนคิดว่าหมอพยาบาลให้การดูแลคนไข้อย่างดีแล้วมันไม่ใช่ทั้งหมดสิ่งที่เราให้คือการให้ความรู้ให้คำแนะนำแต่ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของคนไข้ในมุมมองของคนไข้เขามองว่าเมื่อเขาเกิดความทุกข์คนอื่นไม่รู้ว่าทุกข์ของเขามากแค่ไหนดังนั้นสมาชิกชมรม Self Help Group เป็นตัวช่วยเข้าไปเติมเต็มในความรู้สึกในอารมณ์ของคนไข้การได้มาทำงานตรงนี้มีความประทับใจมากปัจจุบันกลุ่มผู้ไร้กล่องเสียงได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยใหม่ที่มาผ่าตัดที่มีความทุกข์กับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังผ่าตัดทุกข์กับสิ่งที่เขาจะต้องสูญเสียหลังผ่าตัดแล้วไม่มีเสียงพูดเขาไม่รู้ว่าจะพูดได้ยังไงแต่เมื่อสมาชิกเราขึ้นไปซึ่งเป็นสมาชิกที่พูดได้เขาก็มีความหวังขึ้นทันทีเมื่อประเมินคนไข้ประเมินผู้ป่วยที่เข้ามาในกลุ่มพบว่าเขามีคุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้นปรับตัวได้เร็วขึ้นและดูแลตนเองได้ดีเพราะความรู้ที่ได้จากกลุ่มน้ำใจจากเพื่อนเรียกว่ามิตรภาพบำบัดหรือบำบัดโดยกัลยาณมิตรบำบัดด้วยความเข้าใจความเมตตาทำให้เกิดความสุขดิฉันบอกผู้ป่วยเสมอเมื่อไหร่คุณมาเป็นจิตอาสาคุณต้องมีความสุขคือหมายความว่าผู้รับก็ต้องมีความสุขผู้ให้ก็ต้องมีความสุขและได้จัดอบรมสมาชิกที่มีศักยภาพให้เป็นผู้ให้ให้เป็นจิตอาสาแนวคิดของจิตอาสาคือการทำงานเพื่อประโยชน์ของเพื่อนของสังคมไม่มีค่าตอบแทนแต่สิ่งที่ได้รับคือความภาคภูมิใจความอิ่มเอิบใจและความสุข” รองศาสตราจารย์ดรุณีกล่าว