กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จัดสัมมนารับฟังความเห็นการฟื้นการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 เผยภาคเอกชนอยากให้ฟื้นเจรจาฯ ขยายตลาดสินค้าไทย หวั่นเสียโอกาสให้ประเทศอื่นที่มีเอฟทีเอกับอียูแล้ว กรมฯ เตรียมลงพื้นที่ซาวด์เสียงที่สงขลาและขอนแก่นต่อ ก่อนรวบรวมผลความเห็นเสนอ ครม. เคาะ


“กรมฯ ขานรับนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ให้เร่งหาข้อสรุปการฟื้นการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู กรมฯ จึงได้ดำเนินการศึกษาวิเคราะห์ประโยชน์และผลกระทบจากการเจรจาดังกล่าว โดยได้มอบสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนาเป็นผู้ศึกษา และลงพื้นที่จัดสัมมนารับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสียทั่วประเทศ เพื่อรวบรวมข้อมูลเสนอระดับนโยบายพิจารณาตัดสินใจในเรื่องนี้”นางอรมน เสริม
.
นางอรมน เพิ่มเติมว่า ในช่วงที่ผ่านมา กรมฯ ได้จัดสัมมนารับฟังความเห็นที่กรุงเทพฯ และชลบุรี พบว่าภาคเอกชนต้องการให้ฟื้นเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู เพื่อเป็นโอกาสในการขยายตลาดใหม่ๆ ให้กับสินค้าของไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป สิ่งทอ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยางและผลิตภัณฑ์ และยานยนต์และชิ้นส่วน อีกทั้งเกรงว่าไทยจะเสียโอกาสทางการค้าและการเป็นฐานการผลิต การกระจายสินค้า และการลงทุนในภูมิภาคให้ประเทศอื่นที่ได้จัดทำเอฟทีเอกับอียูแล้ว เช่น เวียดนามและสิงคโปร์ ขณะที่ผู้ประกอบการบางส่วนและภาคประชาสังคมมีข้อกังวลที่ไทยอาจจะต้องเปิดตลาดหรือปรับกฎระเบียบเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การคุ้มครองพันธุ์พืช ทรัพย์สินทางปัญญา สิ่งแวดล้อม และแรงงาน นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรกรยังเสนอให้จัดตั้งกองทุนเอฟทีเอเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเอฟทีเอ โดยครั้งต่อไป กรมฯ จะลงพื้นที่จัดสัมมนารับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสียในภาคใต้ จังหวัดสงขลาวันที่ 28 ตุลาคม 2562 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจังหวัดขอนแก่น วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 ก่อนรวบรวมผลการรับฟังความเห็นและผลการศึกษาวิเคราะห์เสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) และคณะรัฐมนตรีพิจารณาตัดสินใจในเรื่องนี้ต่อไป





























