จากเปลือกไข่ไก่เศษเหลือทิ้งในการกระบวนการผลิต วันนี้ถูกนำมาเพิ่มมูลค่าสู่ “ปุ๋ยเปลือกไข่” ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่เหมาะสมสำหรับดินและต้นพืชทุกชนิด สร้างผลผลิตพืชที่มีคุณภาพ เจริญเติบโตดี ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น นำไปสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้นของเกษตรกร
“โครงการปุ๋ยเปลือกไข่สู่ชุมชนและเกษตรกร” เกิดขึ้นจากแนวคิด “เปลี่ยนเศษเหลือในกระบวนการผลิต เป็นปุ๋ย ด้วยวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตเกษตรกรรมให้เกษตรกร” ของทีมงาน ธุรกิจไก่ปู่-ย่าพันธุ์เนื้อ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ จังหวัดชัยภูมิ ที่คว้ารางวัล Gold Pitch ในรอบ CSR Pitching Contest #1/2022 ในการประกวดรางวัล CPF–ยั่งยืนได้ด้วยมือเรา (CPF-Sustainability in Action Awards 2022) ที่บริษัทจัดขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจพนักงาน ปั้นโครงการที่สร้างประโยชน์สู่สังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง

จากการศึกษาจนเกิดองค์ความรู้ของบุคลากร ทำให้ได้ปุ๋ยน้ำชีวภาพ เพื่อนำไปผสมกับมูลไก่จากฟาร์มต่างๆ ในธุรกิจไก่ปู่-ย่าพันธุ์ และเปลือกไข่จากโรงฟักภายในธุรกิจไก่ไข่ มาทำเป็นปุ๋ยหมัก โดยใช้พื้นที่โรงผลิตปุ๋ยอินทรีย์ของศูนย์เรียนรู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง บ้านซับรวงไทร จังหวัดชัยภูมิ เพื่อแจกจ่ายให้กับชุมชน เกษตรกร และหน่วยงานราชการ นำไปใช้ประโยชน์ เป็นการขยายผลทั้งในและนอกองค์กร

นายชูชีพ ชัยภูมิ หรือ พ่อชีพ ประธานศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ บ้านซับรวงไทร บอกว่า ผลลัพธ์ที่ได้จาก “โครงการปุ๋ยเปลือกไข่สู่ชุมชนและเกษตรกร” นอกจากซีพีเอฟจะสามารถลดของเสียที่ต้องฝังกลบเปลือกไข่กลายเป็นศูนย์ตันต่อปีแล้ว ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตได้ยังนำไปแจกจ่ายให้กับชุมชน เกษตรกรในเครือข่าย รวมถึงหน่วยงานต่างๆ รวม 63 ราย ได้ปุ๋ยใช้ประโยชน์มากกว่า 150 ตันต่อปี มีเกษตรกรนำปุ๋ยไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่กว่า 400 ไร่ และจากการวิเคราะห์ทางเคมี พบว่าปุ๋ยมีธาตุไนโตรเจนและฟอสฟอรัสสูง เป็นธาตุอาหารที่ทำให้พืชผักโตเร็ว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการเกษตร ทำให้ผลผลิตของเกษตรกรเพิ่มมากขึ้น ประมาณ 20%

ทางด้าน นางเมืองพร ชนะพาล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ เล่าว่า ตนเองมีอาชีพทำการเกษตร ทำนาข้าว ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง และยังเป็นเกษตรกรรุ่นบุกเบิกที่ร่วมกับเพื่อนในชุมชนรวมตัวกันปลูกผักปลอดภัย จากนั้นทางซีพีเอฟเข้ามาช่วยสนับสนุนอุปกรณ์เก็บน้ำและกระจายน้ำ ร่วมกันก่อตั้งและสร้างตลาดชุมชน ดูแลวางแผนการตลาด หาช่องทางการจำหน่าย พักน้ำไว้ใช้เพาะปลูก และยังสนับสนุนการทำปุ๋ยให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์แทนการใช้ปุ๋ยเคมี เป็นแนวทางลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมี ลดค่าใช้จ่ายของครัวเรือนลงได้อย่างมาก ส่วนผลผลิตผักที่ได้ ทางซีพีเอฟเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการตลาด การจำหน่าย แนะนำลูกค้าให้ ขอบคุณซีพีเอฟที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง คนในชุมชนมีโอกาสได้ทำงานกับซีพีเอฟ ไม่ต้องเดินทางไปทำงานต่างพื้นที่ไกลๆ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ซึ่งไม่สามารถทำงานหนักได้ ก็มาทำหน้าที่ดูแลแปลงผักและมีรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตผักปลอดสารเคมี 100% ด้วย

























