ระดับน้ำทางตอนบนของแม่น้ำเจ้าพระยา-ป่าสัก ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากอย่างใกล้ชิด หลังกรมอุตุฯเตือนอาจมีฝนตกหนักบางแห่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 27 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน นี้

– อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำลดลง 13 ซม.
– อ.เมือง จ.อ่างทอง ระดับน้ำลดลง 10 ซม.
ในขณะที่คลองชัยนาท-ป่าสัก ยังคงการรับน้ำที่ประตูน้ำมโนรมย์ในอัตรา 120 ลบ.ม./วินาที
ด้านลุ่มน้ำป่าสัก เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงระบายที่ 475 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มน้ำไหลเข้าอ่างฯลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่ด้านท้ายเขื่อนป่าสักฯ มีระดับน้ำลดลงตามไปด้วย ดังนี้
– อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ระดับน้ำลดลง 62 ซม.
– อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ระดับน้ำลดลง 60 ซม.
– อ.เมืองสระบุรี ระดับน้ำลดลง 58 ซม.
– อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำลดลง 21 ซม.
– อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำยังคงทรงตัว
ส่วนที่เขื่อนพระรามหก ได้ควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 712 ลบ.ม./วินาที พร้อมกับปรับการรับน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์ตามศักยภาพของคลอง โดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ริมคลอง เพื่อแบ่งเบาปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่ จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงเฝ้าระวังสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงวันที่ 27 ต.ค. – 1 พ.ย. 64 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงขอให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อสอบถามไปยังโครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา
 
			
