นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนพี่น้องชาวสิงห์บุรี พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำและมอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ย้ำให้ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำและช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร็ว ขณะที่กรมชลประทานวางแผนบริหารจัดการลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบน้ำท่วมในอนาคต โดยมีนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน นายเนรมิต เทพนอก รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 และผู้เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี

ในส่วนของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีการระบายน้ำ 575 ลบ.ม./วินาที และมีการผันน้ำออกทางคลองระพีพัฒน์ 110 ลบ.ม./วินาที ควบคุมน้ำผ่านเขื่อนพระรามหกไม่เกิน 700 ลบ.ม/วินาที ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ในขณะที่สถานี C.29 อ.บางไทร มีน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 3,051 ลบ.ม./วินาที (รับได้สูงสุด 3,500 ลบ.ม./วินาที)

ในการนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ได้เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องชาวชุมชนบางแคใน บริเวณใต้สะพานบางระจัน ตำบลบางกระบือ อำเภอเมืองสิงห์บุรี โดยได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย 10 หลังคาเรือน ก่อนจะเดินทางไปตรวจสภาพพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ บริเวณวัดเฉลิมมาศ และเดินทางไปเปิดโครงการ “ส่งสุขภาพดีให้คนไทย #จากใจไปรษณีย์ไทย Delivers Wellness” ณ วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี
นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมชลประทานและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำ พร้อมกล่าวแสดงความเป็นห่วงเป็นใยประชาชนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้แล้ว 400 กว่าล้านบาท เพื่อทำพนังกั้นน้ำเพิ่มเติมต่อไป


























