คงปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยสถานการณ์โควิด-19 บางช่วงเวลาระบบโลจิสติกส์มีปัญหา ทำให้การกระจายสินค้าจากแหล่งผลิต ไม่เป็นไปตามเป้า ตลาดไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้เกิดปัญหาทางด้านราคา โดยเฉพาะผลผลิตอายุสั้น อย่างผลไม้ ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์มีนโนบายให้สหกรณ์ต่าง ๆ มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาความ เดือดร้อนของเกษตรกรสมาชิกได้ระดับหนึ่ง
“ในช่วงโควิด-19 ทำให้การขนส่ง การค้าการขายยากลำบาก เราก็เลยทำโครงการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน อย่างเช่น ข้าวของทางภาคอีสานแลกกับผลไม้ทางภาคใต้ในช่วงที่ผลไม้ออกมามาก ๆ เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน หรือ แลกสินค้าประมง เช่น ปลาเค็ม ปลาหมึกแห้ง สหกรณ์ต่าง ๆ ก็มีการแลกเปลี่ยนสินค้ากัน ทำมาได้ระยะหนึ่งก็มีผลตอบรับที่ดี”

แม้ว่าขณะนี้ปัญหาผลไม้ทางภาคใต้จะคลี่คลาย เพราะอยู่ในช่วงปลายฤดู แต่ทว่าข้าวกลับมีปัญหา โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิในแถบภาคอีสานที่ขณะนี้ราคาตกต่ำเป็นประวัติการณ์ สนนราคาข้าวเปลือกขณะนี้อยู่ที่เกวียนละ 9,000-10,000 บาทเท่านั้น

ปัจจุบันมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ดำเนินธุรกิจรวบรวม จำหน่ายและแปรรูปข้าว จำนวน 424 แห่ง ใน 56 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มีสหกรณ์ที่ทำโรงสีได้มาตรฐานจีเอ็มพี(GMP) มีอยู่ทั้งหมด 60 แห่ง ที่ผลิตสินค้าข้าวได้มาตรฐาน ถูกสุขลักษณะอนามัยเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
โดยแต่ละปีมีปริมาณข้าวที่รวบรวมผ่านระบบสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรกว่า 2.28 ล้านตัน รวบรวมเพื่อจำหน่วย 2.17 ล้านตันและรวบรวมเพื่อแปรรูป 0.11 ล้านตัน ประกอบด้วยข้าวสายพันธุ์ต่าง ๆ อาทิ ข้าวหอมมะลิ 105 ข้าวหอมปทุม ข้าวขาว ข้าวเหนียวและข้าวตลาดเฉพาะ ได้แก่ ข้าว กข43 ข้าว กข79 ข้าวสีและข้าวพื้นเมือง เช่น ข้าวสังข์หยด ข้าวเจ๊กเชย ข้าวเหลืองปะทิว ข้าวไร่ดอกข่า เป็นต้น
ส่วนการสนับสนุนสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในการรวบรวมและแปรรูปผลผลิตนั้น นายวิศิษฐ์กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนอุปกรณ์การตลาดที่จำเป็นให้เพียงพอและครบวงจรเพื่อให้สหกรณ์รวบรวมข้าวในพื้นที่ให้มากที่สุด อย่างเช่น โกดัง ลานตาก เครื่องชั่ง ไซโล เครื่องอบลดความชื้น รถตักล้อยาง รถโฟล์คลิฟท์ เครื่องสีข้าว เครื่องขัดขาวและเครื่องยิงสี เป็นต้น

นอกจากนี้ยังจัดโครงการอบรมให้ความรู้แก่สหกรณ์ต่าง ๆ ในการดำเนินธุรกิจตั้งแต่กระบวนการผลิต การแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนการจำหน่ายสินค้าไปยังผู้บริโภค
“ในแต่ละปีเราจะมีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะกับการจำหน่ายในช่องทางการตลาด ต่าง ๆ ทั้งรูปลักษณ์ ขนาดและราคาที่มีปริมาณเหมาะกับสังคมเมือง แต่ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่การออกแบบบรรจุภัณฑ์จะเป็นอีกลักษณะหนึ่ง”นายวิศิษฐ์เผย

“ยุคโควิดเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ เราต้องช่วยเหลือดูแลกัน ลดค่าใช้จ่ายผู้บริโภคด้วย จึงขอเชิญชวนผู้บริโภค พี่น้องประชาชนมาจับจ่ายใช้สอยสินค้าสหกรณ์ในจังหวัดต่าง ๆ ทั้งที่ร้านและในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เราได้จัดเป็นช่องทางจำหน่าย นอกจากได้สินค้าดีมีคุณภาพแล้วยังได้ช่วยเหลือพี่น้องสมาชิกสหกรณ์ด้วยกันอีกด้วย” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเชิญชวน

“ทุกปีไม่มีปัญหา แต่มาปีนี้เจอภาวะโควิด-19 เราไม่สามารถส่งออกได้ รวมทั้งโรงสีต่าง ๆ ในจังหวัดเจอปัญหาเหมือนกัน ทำให้ราคาข้าวตอนนี้ตกลงมาค่อนข้างเยอะช่วงต้นฤดูเราซื้อไว้ที่ราคา 12-13 บาทต่อกิโลกรัม วันนี้เหลือเพียง 9-10 บาทเท่านั้น ก็เป็นปัญหาพอสมควร จะขายออกไปก็ขาดทุน จะเก็บไว้ก็ข้าวฤดูกาลใหม่ก็ใกล้เข้ามา ไม่มียุ้งฉางเก็บ เพราะข้าวในสต๊อคก็ยังเหลืออยู่เยอะ ผลกระทบก็จะเกิดกับสมาชิกแน่นอน”
สหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ดยอมรับว่าโครงการแลกเปลี่ยนสินค้าสหกรณ์ช่วยในการระบายข้าวได้มาก โดยเฉพาะโครงการข้าวแลกผลไม้ทางภาคใต้ โดยการสนับสนุนของกรมส่งเสริมสหกรณ์นั้นสามารถช่วยระบายข้าวออกไปได้กว่า 600 ตัน ที่สำคัญพี่น้องชาวร้อยเอ็ดก็ได้รับประทานผลไม้สด ๆ จากสวนด้วย
“เดือนที่แล้วทางกรมส่งเสริมสหกรณ์เองก็ได้หาทางช่วยระบายข้าวโดยเอาลงไปแลกกับผลไม้ทางภาคใต้ ทางร้อยเอ็ดก็ได้ทานผลไม้สด ๆ จากทางภาคใต้ ส่วนทางใต้ก็ได้ทานข้าวหอมจากร้อยเอ็ด หลัก ๆ ที่ส่งไปมี 2 ที่ คือ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.ร้อยเอ็ด จำกัด กับสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด เพราะทั้งสองสหกรณ์มีการแปรรูปข้าวสารตลอดปี ช่วงไหนไม่มีผลไม้ก็จะแลกกับอาหารทะเล”นายณัฐพลกล่าวย้ำ




























