วานนี้ (12 ส.ค.64) เวลา 10.30 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ถึงแม้จะเข้าสู่ฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูกาลเพาะปลูก แต่ปริมาณฝนในหลายพื้นที่ยังไม่เพียงพอ ตลอดจนปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ แหล่งน้ำสำคัญยังคงมีปริมาณน้ำต้นทุนไม่เพียงพอเช่นเดียวกัน จากแผนที่อากาศผิวพื้นของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่ามีหย่อมความกดอากาศต่ำอยู่บริเวณพื้นที่ สปป.ลาว ประเทศเวียดนาม และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีโอกาสเกิดฝนและมีการกระจายตัวของฝนมากพอสมควร
ขณะเดียวกันกรมฝนหลวงและการบินเกษตรบูรณาการร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก ยังคงเร่งช่วยเหลือพื้นที่ต้องการน้ำอย่างเต็มที่ โดยไม่มีวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สำหรับผลการปฏิบัติฝนหลวงเมื่อวานนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศ และกองทัพบก ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 11 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.กำแพงเพชร ลำปาง ตาก สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี ขอนแก่น หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สุรินทร์ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ราชบุรี เพชรบุรี นครศรีธรรมราช สามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อน จำนวน 4 แห่ง อ่างเก็บน้ำ จำนวน 6 แห่ง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง
แม้จะเป็นวันหยุดราชการ แต่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงยังคงติดตามเงื่อนไขของสภาพอากาศ และความต้องการน้ำในพื้นที่ของประชาชน หากสภาพอากาศเอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวงพร้อมขึ้นบินปฏิบัติการทันที และจากผลการตรวจสภาพอากาศในช่วงเช้านี้จากสถานีเรดาร์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรพบว่า สภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 8 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้แก่
– หน่วยฯ จ.ตาก ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สุโขทัย จ.ตาก จ.กำแพงเพชร
– หน่วยฯ จ.พิษณุโลก ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.พิจิตร
– หน่วยฯ จ.กาญจนบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สุพรรณบุรี จ.กาญจนบุรี
– หน่วยฯ จ.ลพบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท
– หน่วยฯ จ.ขอนแก่น ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ขอนแก่น จ.เลย จ.หนองบัวลำภู
– หน่วยฯ จ.อุบลราชธานีช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี
– หน่วยฯ จ.สุรินทร์ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด
– หน่วยฯ จ.นครราชสีมา ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรจ.นครราชสีมา
สำหรับอีก 5 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ยังคงติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่องหากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขในการปฏิบัติการ สามารถขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายได้ทันทีเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวง และติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line OfficialAccount: @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100
