
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวอีกว่า การให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เป็นวิธีการดำเนินงานอย่างหนึ่งที่สามารถทำให้การบริการทางวิชาการและการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บรรลุผลสำเร็จตามภารกิจที่รับผิดชอบ โดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหา ให้ได้รับบริการทางการเกษตรอย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและครบถ้วน เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัย โรคพืช โรคสัตว์ โรคสัตว์น้ำ และการให้วัคซีนป้องกันโรค รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตรเสริมเพิ่มเติมควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเป็นการดำเนินการในลักษณะบูรณาการการทำงานระหว่าง นักวิชาการของหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งด้านพืช สัตว์ ประมง ดิน และน้ำ ฯลฯ พร้อมด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือทางวิชาการด้านต่างๆ มาให้บริการในคลินิกเกษตร โดยสามารถเคลื่อนที่เข้าไปได้ถึงในระดับตำบล เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้ารับบริการทางการเกษตรได้อย่างถูกต้องครบถ้วนทุกด้านในคราวเดียวกันด้าน นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยคณะกรรมการโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร กำหนดเปิดให้บริการโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯ ใน 77 จังหวัด ทั่วประเทศ โดยกิจกรรมด้านคลินิกเกษตรที่เปิดให้บริการ ได้แก่ คลินิกดิน คลินิกพืช คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกข้าว คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกกฎหมาย (สปก.) คลินิกหม่อนไหม คลินิกส่งเสริมการเกษตร เป็นต้น ซึ่งผลการดำเนินงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ ปี 2545 – ปัจจุบัน สามารถแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรให้เกษตรกรทั่วประเทศไปแล้วไม่น้อยกว่าจำนวน 3.8 ล้านคน โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ไตรมาสที่ 1 ถึงปัจจุบัน (1 ตุลาคม 2563 – 9 กรกฎาคม 2564) มีเกษตรกรเข้ามารับบริการจำนวน 31,050 ราย และเข้ารับบริการในคลินิกต่าง ๆ จำนวน 37,282 ราย ซึ่งเกษตรกร 1 รายสามารถเข้ารับบริการได้มากกว่า 1 คลินิก โดยให้บริการเสร็จสิ้นในวันเปิดคลินิก จำนวน 36,591 ราย และมีเกษตรกรที่ต้องติดตามให้บริการต่อเนื่อง จำนวน 691 ราย






























