กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผย “กาแฟไทย” มีโอกาสส่งออกตลาดฮังการี เหตุคนส่วนใหญ่นิยมบริโภคกาแฟ ทั้งที่ทำงาน ที่บ้าน และตามร้านค้า ชี้แม้จะภักดีต่อแบรนด์ แต่ก็พร้อมทดลองแบรนด์ใหม่ๆ จึงเป็นโอกาสของกาแฟไทย ที่จะบุกเจาะตลาดได้

ทั้งนี้ มีผลสำรวจว่า ชาวฮังการีมีการบริโภคกาแฟที่บ้านเฉลี่ยประมาณ 315 บาทต่อเดือน ส่วนที่ทำงาน ก็มีค่าใช้จ่ายไม่ต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้จ่าย เนื่องจากเป็นสวัสดิการ ของที่ทำงาน และตั้งแต่มีการระบาดของ
โควิด-19 ทำให้ดื่มกาแฟในร้านไม่ได้ แต่สามารถสั่งกลับได้ ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายไม่ต่างกัน และคาดว่า หลังรัฐบาลฮังการีอนุญาตให้ร้านค้าที่มีที่นั่งภายนอกเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เม.ย.2564 จะทำให้ยอดขายกาแฟสูงขึ้น สำหรับกาแฟที่ผู้บริโภคนิยม ได้แก่ เมล็ดกาแฟ และกาแฟแคปซูล และยังนิยมกาแฟคั่วบด โดยซื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ แต่ก็เริ่มมีการสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับแบรนด์ แต่ก็พร้อมที่จะเปิดรับแบรนด์ใหม่ๆ หากมีรสชาติดี คุณภาพสูง

อย่างไรก็ตาม แม้จะส่งออกได้ไม่มาก แต่ก็มีโอกาสในการส่งออก โดยต้องพิจารณาการเพิ่มคุณค่าให้สินค้ากาแฟไทย โดยเน้นไปที่คุณภาพ รสชาติ และอัตลักษณ์ มากกว่าปริมาณ พัฒนากระบวนการแปรรูปให้ได้คุณภาพ สมัครใบรับรองคุณภาพมาตรฐานสินค้าระดับสากล สร้างชื่อเสียงด้วยการส่งประกวด และพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์กาแฟ และผู้ส่งออกไทย อาจพิจารณาช่องทางการขายผ่านผู้จัดจำหน่ายภายในประเทศที่จัดส่งสินค้าเข้าห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ ซึ่งจะทำให้กาแฟไทยเข้าสู่ตลาดฮังการีได้เพิ่มขึ้น




























