กรมชลประทาน ติดตามและคุมเข้มแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้งอย่างใกล้ชิด เหตุน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำต่างๆลดลงอย่างต่อเนื่อง ย้ำทุกฝ่ายต้องร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด ลดเสี่ยงปัญหาการขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้

สำหรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงในช่วงปลายเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น นั้น ปัจจุบัน(8 ก.พ. 64)เมื่อเวลา 07.00 น. ที่สถานีสูบน้ำประปาสำแลของการประปานครหลวง(กปน.)จ.ปทุมธานี วัดค่าความเค็มได้ 0.33 กรัม/ลิตร (เกณฑ์เฝ้าระวัง 0.25 กรัมต่อลิตร มาตรฐานเพื่อการผลิตน้ำประปาไม่เกิน 0.50 กรัมต่อลิตร) ส่วนแม่น้ำท่าจีน ที่สถานีปากคลองจินดา วัดค่าความเค็มได้ 4.01 กรัมต่อลิตร (เกณฑ์เฝ้าระวังสำหรับกล้วยไม้ 0.75 กรัมต่อลิตร เกณฑ์เฝ้าระวังเพื่อการเกษตรไม่เกิน 2 กรัมต่อลิตร) ได้ทำการปิดประตูระบายน้ำปากคลองจินดา เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเค็มรุกเข้าไปในคลอง และเมื่อค่าความเค็มในแม่น้ำท่าจีนลดลง จะสูบน้ำเข้าคลองให้เกษตรกรใช้ประโยชน์ต่อไป
 
อนึ่ง ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC 1-17) จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำระดับจังหวัด สำรวจความต้องการใช้น้ำ รวมทั้งความสมดุลของแหล่งน้ำในแต่ละพื้นที่ ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำมาวางแนวทางในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ กำลังเจ้าหน้าที่ และการกำหนดพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ เพื่อให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งวางแผนบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ด้วยการสำรวจพื้นที่เก็บกักน้ำตามธรรมชาติ อาทิ แก้มลิง หรือ บ่อยืม โดยทำการปรับปรุง ขุดลอก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝน ตลอดจนกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือปริมาณน้ำในฤดูน้ำหลากต่อไป
 
			
