น้ำเค็มรุกแม่น้ำท่าจีน ชป.วางมาตรการเร่งด่วน แก้ปัญหาความเค็มพุ่งสูง

กรมชลประทาน วางมาตรการเร่งด่วน แก้ปัญหาความเค็มรุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำท่าจีน ลดผลกระทบต่อประชาชน พื้นที่ปลูกกล้วยไม้บริเวณคลองจินดาและพื้นที่ใกล้เคียง

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยหลังจากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ค่าความเค็มที่ประตูระบายน้ำคลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐมว่า ค่าความเค็มที่ขึ้นสูงในแม่น้ำท่าจีน เนื่องจากภาวะน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ความเค็มรุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำท่าจีน จนถึงบริเวณอำเภอสามพราน ทำให้ไม่สามารถเปิดประตูระบายน้ำเพื่อรับน้ำเข้าคลองจินดา และคลองสาขาอื่นๆได้ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ใช้น้ำที่เพาะปลูกกล้วยไม้ และไม้ผล ปัจจุบัน(12 ม.ค.64) เมื่อเวลา 07.00 น. ที่สถานีปากคลองจินดา มีค่าความเค็มอยู่ที่ 1.20 กรัม/ลิตร ซึ่งเกณฑ์เฝ้าระวังสำหรับกล้วยไม้คือ 0.75 กรัม/ลิตร และเกณฑ์เฝ้าระวังเพื่อการเกษตรไม่เกิน 2 กรัม/ลิตร

สำหรับการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำด้วยการปิด–เปิดประตูระบายน้ำคลองจินดา(ปตร.) ให้สัมพันธ์กับค่าความเค็มตามจังหวะการขึ้นลงของน้ำทะเล พร้อมจัดทำบันทึกช่วงเวลาการปิด–เปิด ปตร. เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์การปิด–เปิด ปตร.ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ที่ประตูระบายน้ำคลองจินดา 2 เครื่อง สูบน้ำจากแม่น้ำท่าจีนในช่วงเวลาที่ค่าความเค็มต่ำกว่า0.5 กรัม/ลิตร เข้าไปเติมในคลองจินดา รวมทั้งตรวจวัดค่าความเค็มด้านนอกและด้านในคลองทุกชั่วโมง เพื่อควบคุมค่าความเค็มไม่ให้เกิน 0.75กรัม/ลิตร โดยการติดตั้งเครื่องโทรมาตรวัดค่าความเค็มด้านในคลอง ห่างจาก ปตร.คลองจินดาประมาณ 500 เมตร พร้อมกับสั่งการให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครปฐม เพิ่มการระบายน้ำผ่านคลองระบายน้ำท่าสาร-บางปลา เป็น 50 ลบ.ม./วินาที และเพิ่มการระบายน้ำปลายคลองส่งน้ำ 6 ขวา-5 ซ้าย และ 7 ขวา-5 ซ้าย ลงสู่ปลายคลองจินดาเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำจืดและลดค่าความเค็มของน้ำในพื้นที่ รวมทั้งจัดเตรียมรถบรรทุกน้ำ20 คัน ไว้ลำเลียงน้ำจืดเข้าไปสนับสนุนพื้นที่เพาะปลูกกล้วยไม้หากเกิดวิกฤติได้ทันที ตลอดจนให้สำรวจแหล่งน้ำและปริมาณน้ำในคลองต่างๆ ที่สามารถนำมาเพิ่มเติมปริมาณน้ำในคลองจินดาได้อีกทางหนึ่งด้วย