สธ.เผยฝุ่น PM2.5 ภาคใต้ยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในพื้นที่ภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันอินโดนีเซีย ว่า ขณะนี้ระดับฝุ่นละอองในทุกจังหวัดอยู่ในระดับปลอดภัย อยู่ที่ 9-21 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งมีค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. ส่วนสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 บรรเทาลง เนื่องจากมีฝนตกกระจายในพื้นที่ภาคใต้ อย่างไรก็ตาม สธ.ยังคงต้องติดตามและเฝ้าระวังต่อไป โดยเฉพาะปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน ซึ่งเบื้องต้น กรมอนามัยได้สำรองหน้ากากอนามัยสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ไว้แล้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือฝุ่นละออง รวมถึงจะสนับสนุนในพื้นที่ที่มีการร้องขอต่อไป
นายธนิตพล กล่าวว่า ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5” โดยจะมีการแจ้งเตือนสถานการณ์แต่ละพื้นที่ในทุกเช้าของทุกวัน รวมถึงคำแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไป และกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว สำหรับเฟซบุ๊กแฟนเพจดังกล่าว ยังจะขยายผลเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่มีสถานการณ์รุนแรง ระหว่างช่วง ต.ค. – ม.ค.ของทุกปี ในพื้นที่ทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน กรมอนามัยได้มีการตรวจสอบไปยังพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา เพื่อติดตามผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ ปัจจุบันยังไม่มีรายงานผู้ได้รับความเจ็บป่วย เนื่องจากค่าฝุ่นยังอยู่ในระดับปลอดภัย ส่วนค่าฝุ่นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพจะอยู่ที่ 51 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป
“สัปดาห์หน้า ผมและคณะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และกรมอนามัย จะเดินทางไปยังพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมร่วมประชุมกับเขตสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และอาสาสมัครสาธาณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อหารือแนวทางการหารือรับมือภัยพิบัติในรูปแบบต่างๆ” นายธนิตพล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในภาคใต้ วันที่ 18 ก.ย. พบระดับฝุ่นละอองในทุกจังหวัดอยู่ในระดับดีมาก โดยวันนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุดอยู่ที่ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา วัดได้ 21 มคก./ลบ.ม. โดยประชาชนทั่วไปและประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ
#AllnewsExpress
