กรมชลประทาน พร้อมรับมือพายุลูกใหม่ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาตคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างในช่วงวันที่ 24-25 ธันวาคมนี้ เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังอย่างต่อเนื่อง หวังลดปัญหาอุทกภัยซ้ำซ้อน

สำหรับลุ่มเจ้าพระยา ได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทานบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนจาก 4 เขื่อนหลัก พร้อมคุมเข้มแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง 63/64 อย่างเคร่งครัด เนื่องจากน้ำต้นทุนฤดูแล้งนี้มีน้อยไม่สามารถสนับสนุนการทำนาปรังได้ ต้องสำรองน้ำไว้เฉพาะการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศน์เป็นหลัก ส่วนนาปี 2563 ที่บางส่วนปลูกล่าช้า พื้นที่กว่า 800,000 ไร่ นั้น จะช่วยเหลือจนกว่าเกษตรกรจะเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ และเพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง กรมชลประทาน ได้ดำเนินโครงการจ้างแรงงาน สำหรับปฏิบัติงานซ่อมแซม บำรุงรักษา ขุดลอก ปรับปรุงงานชลประทาน เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้เสริมหรือทดแทนที่ไม่สามารถทำการเกษตรในหน้าแล้งนี้ได้
ในส่วนของพื้นที่ภาคใต้ อิทธิพลของพายุโซนร้อน “กรอวาญ” (พายุระดับ 3) คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ในช่วงวันที่ 23-24 ธ.ค. 63 จะส่งผลให้พื้นที่ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักไปจนถึงต้นเดือนมกราคม 2564 อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้อีก ได้สั่งการให้ทุกโครงการชลประทานเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามมาตรการรับมืออุทกภัยอย่างเคร่งครัด มีการกำหนดคน กำหนดพื้นที่เสี่ยง กำหนดเครื่องจักรเครื่องมือประจำจุดเสี่ยง และสำรองไว้ให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนตรวจสอบอาคารชลประทานให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ควบคุมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมอย่างเคร่งครัด ปรับแผนการระบายน้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือ ช่วยลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด ส่วนพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มขึ้น ช่วยลดและบรรเทาปัญหาอุทกภัยซ้ำซ้อน
กรมชลประทาน ได้ดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้ง และอุทกภัยมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันหลายพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนในพื้นที่ที่ยังประสบปัญหาอยู่ ยังช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมเตรียมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นอีกในระยะต่อไป หลังจากนั้นจะทำการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์อุทกภัย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้มอบนโยบายให้กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากทั้งภัยแล้ง และอุทกภัยให้ได้มากที่สุด




















กรมชลประทาน 





