กรมชลประทาน นำเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ เร่งระบายน้ำท่วมขัง พร้อมเดินหน้าบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมาก ลดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างฯอย่างเต็มศักยภาพ

โดยที่จังหวัดนครราชสีมา น้ำป่าที่ไหลหลากจากเขาใหญ่ลงสู่ต้นน้ำลำตะคอง และไหลล้นเข้าท่วมพื้นที่บ้านคลองเดื่อ บ้านวังประดู่ บ้านคลองเพล บ้านโต่งโต้น บ้านท่ามะปรางค์ ต.หมูสี ปัจจุบันเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนปริมาณน้ำที่ไหลหลากนี้จะไหลลงอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ที่ปัจจุบันยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกประมาณ 76 ล้านลบ.ม. โดยไม่กระทบกับพื้นที่ด้านท้ายน้ำ รวมไปถึงในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา
ในส่วนของการช่วยเหลือระบายน้ำที่ท่วมขังในเขตอำเภอเมือง เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน นั้น สำนักเครื่องจักรกล ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในลำน้ำบริบูรณ์ บริเวณประตูระบายน้ำ(ปตร.)จอหอ 6 เครื่อง และที่ลำน้ำลำตะคอง บริเวณ ปตร.ข่อยงามอีก 3 เครื่อง พร้อมกำจัดผักตบชวาบริเวณใต้สะพานรถไฟ ท้าย ปตร.จอหอ เพื่อให้น้ำระบายได้สะดวก นอกจากนี้ ยังได้นำรถแบคโฮ 5 คัน เข้าไปขุดลอกคลองสาบใหญ่ฝั่งขวา-ปตร.โพธิ์เตี้ย ต.หมื่นไวย อ.เมืองนครราชสีมา รวมระยะทาง 11 กม. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลงสู่ลำน้ำบริบูรณ์ให้เร็วขึ้น
ส่วนที่เขื่อนลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำในเขื่อน 148 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น (95 % ของความจุอ่างฯ) แนวโน้มน้ำไหลลงอ่างฯลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้ระบายน้ำเพื่อการบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ด้วยการระบายลงคลองส่งน้ำสายใหญ่วันละ 1.55 ล้าน ลบ.ม. และระบายลงลำน้ำธรรมชาติ วันละ 3.28 ล้าน ลบ.ม. รวมระบายน้ำทั้งสิ้นวันละ 4.83 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งการระบายน้ำนี้ส่งผลกระทบบ้างเล็กน้อยในพื้นที่ ลุ่มต่ำ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร ในเขตอ.ปักธงชัย ทั้งนี้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ร่วมกับ อบต.สุขเกษม ช่วยกันกำจัดวัชพืชและสิ่งกัดขวางทางน้ำที่บริเวณสะพานบ้านบุพรหมราช เพื่อเร่งการระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับชาวบ้านท่าน้ำทิพย์วางกระสอบทรายบริเวณคันคลองที่ LMC ลำพระเพลิง กม.28+100 พร้อมกับประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่อไปแล้ว

ที่จังหวัดราชบุรี เกิดน้ำหลากล้นตลิ่งแม่น้ำภาชี เข้าท่วมพื้นที่ราษฎร รวมทั้งพื้นที่เกษตรกรรม ในเขต อ.สวนผึ้ง (ต.ตะนาวศรี และ ต.สวนผึ้ง) อ.จอมบึง (ต.ด่านทับตะโก และ ต.แก้มอ้น) ลำห้วยแม่ประจันต์ อ.ปากท่อ (ต.ยางหัก) แนวโน้มระดับน้ำในลำภาชีเริ่มลดลงแล้ว และการคาดการณ์โครงการชลประทานราชบุรี ได้ประสานกับสำนักงานชลประทานที่ 13 เพื่อสนับสนุนเครื่องจักรเครื่องมือเข้าไปช่วยเหลือแล้ว
ที่จังหวัดจันทบุรี มีน้ำป่าไหลหลากเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.สอยดาว (บริเวณ หมู่ 1 หมู่ 5 หมู่ 9 และหมู่ 12 ต.ทรายขาว และหมู่ 11 ต.ทับช้าง) และอ.โป่งน้ำร้อน บริเวณด่านบ้านแหลม ต.เทพนิมิต ปัจจุบัน อ.สอยดาวสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ในส่วน อ.โป่งน้ำร้อน ระดับน้ำยังทรงตัว หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ภายใน 1-2 วันนี้ โครงการชลประทานจันทบุรี ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน เข้าไปให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ด้วยการแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มให้กับผู้ประสบภัย

สำหรับในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 315 ล้าน ลบ.ม.(44 % ของความจุอ่างฯ) ปิดการระบายน้ำ ส่วนอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 38 ล้าน ลบ.ม. (90 % ของความจุอ่างฯ) ระบายน้ำ 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก จำเป็นต้องระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยผากมีปริมาณน้ำ 15 ล้าน ลบ.ม. (56 % ของความจุอ่างฯ) ปิดการระบาย ทั้งนี้ จากการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์ ประกอบกับปริมาณน้ำที่เกิดจากฝนตกด้านท้ายอ่างฯ จะไหลไปรวมกับแม่น้ำเพชรบุรีที่มาจากเขื่อนแก่งกระจาน และห้วยผาก ก่อนเข้าสู่เขื่อนเพชร ซึ่งจะเป็นตัวควบคุมการระบายน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีที่จะไหลลงไปสู่พื้นที่ตัวเมืองจังหวัดเพชรบุรีต่อไป




























