(22 กันยายน 2563) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการรับสมัครนักศึกษาจบใหม่”, “โครงการสนับสนุนแฟรนไชส์ธุรกิจร้านอาหาร” และ “โครงการคูปองแทนใจให้ผู้ประกันตน” เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและแก้ปัญหาคนว่างงานจากผลกระทบโควิด-19 โดยมี นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน และนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ เป็นผู้ลงนาม ณ อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ สีลม



ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร จึงเปิดรับตำแหน่งงานได้อย่างหลากหลายตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ครอบคลุมหลายสาขาอาชีพ อาทิ สัตวแพทย์ สัตวบาล วิศวกร นักวิจัยพัฒนาอาหาร นักวิทยาศาสตร์ รวมถึง IT ที่จะเข้ามาช่วยพัฒนางานด้าน Smart Farming , Smart Factory ตลอดจน งานด้านโลจิสติกส์ และงานบริการในร้านซีพีเฟรชมาร์ทและร้านอาหาร การรับนักศึกษาจบใหม่นี้ ตั้งเป้าเปิดรับจำนวนสูงถึง 8,000 อัตรา แบ่งเป็นงานในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 4,000 อัตรา และต่างจังหวัดในทุกภูมิภาคทั่วประเทศอีก 4,000 อัตรา ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ www.cpfwolrdwide.com หรือ พบบูธ CPF ได้ในงาน JOB EXPO THAILAND 2020 จัดโดยกระทรวงแรงงาน วันที่ 26 -28 กันยายน 2563 ณ ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการสร้างผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็ก-กลาง ผ่าน “โครงการสนับสนุนแฟรนไชส์ธุรกิจร้านอาหาร” เช่น ธุรกิจห้าดาวและสตาร์คอฟฟี่ โดยอบรมเสริมความรู้ยกระดับการเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร สร้างความเข้มแข็งให้ SMEs ไทยกว่า 4,500 ราย ทั้งสองธุรกิจนี้ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียงหลักหมื่นและพื้นที่ขนาดเล็กกะทัดรัดในทุกๆพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ก็สามารถประกอบอาชีพธุรกิจห้าดาวและสตาร์คอฟฟี่ได้ทันที โดยบริษัทมีหลักสูตรอบรมและเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา เพื่อช่วยยกระดับทักษะฝีมือให้ทุกท่านเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร-ร้านกาแฟได้อย่างเป็นรูปธรรม นับเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพที่เป็นพื้นฐานการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างดี ผู้สนใจเข้าเป็นแฟรนไชส์ธุรกิจห้าดาว สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ http://fivestar.in.th และหากสนใจธุรกิจสตาร์คอฟฟี่ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://Starcoffee.in.th

“การช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศเป็นหน้าที่ของทุกบริษัทที่มีขีดความสามารถ และโครงการที่กระทรวงแรงงานดำเนินการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก นับเป็นอีกโครงการใหญ่ของซีพีเอฟที่ได้ทำร่วมกับภาครัฐ และตอกย้ำการเป็น Good Corporate Citizen ของบริษัท ท่ามกลางสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ยังมีการระบาดในประเทศต่างๆอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าความร่วมมือของทุกภาคส่วนจะทำให้ประเทศไทยก้าวข้ามวิกฤตนี้ไปได้” นายประสิทธิ์กล่าวทิ้งท้าย

























