จากผลของอิทธิพลพายุ “ซินลากู” ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ส่งผลดีให้มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติหลายแห่ง ด้านลุ่มน้ำเจ้าพระยาแม้จะมีปริมาณน้ำไหลงลง 4 เขื่อนหลัก ยังไม่มากนัก แต่พอช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปริมาณน้ำใช้การได้ ทำให้สถานการณ์น้ำมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

จากอิทธิพลของพายุดังกล่าว ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีแนวโน้มดีขึ้น โดยในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมจนถึงปัจจุบัน(1 – 6 ส.ค. 63) มีปริมาณน้ำลงอ่างฯรวม 505ล้าน ลบ.ม. แยกเป็น เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯรวม 91 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯรวม 393 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลกปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯรวม 20 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯรวม 0.61 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านตอนบนที่ไหลลงเขื่อนสิริกิติ์ อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี (ระยะเวลา 6 วัน มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนสิริกิติ์รวมกว่า 393 ล้าน ลบ.ม.) ส่งผลให้ภาพรวมปริมาณน้ำเก็บกัก 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับปริมาณน้ำท่าในแม่น้ำน่านด้านท้ายเขื่อนสิริกิติ์อยู่ในเกณฑ์มาก กรมชลประทาน ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำท่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยปรับการรับน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกตามความเหมาะสม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการทำนาปี



























