แม่น้ำป่าสัก-เจ้าพระยาลดลง ยังเฝ้าระวังพายุ “คมปาซุ”

0
18836

ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลาง ส่งผลให้ปริมาณน้ำท่าเพิ่มสูงขึ้น บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำและริมน้ำต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม คาดว่าจะไม่เกิดผลกระทบ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก น้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำป่าสัก วันนี้ (13 ต.ค. 64) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปรับลดการระบายน้ำลดลงเหลือเพียง 50 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำของแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อน ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง ดังนี้
🔻อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ลดลง 3.50 เมตร
🔻อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ลดลง 3.30 เมตร
🔻อ.เมือง จ.สระบุรี ลดลง 2.09 เมตร
🔻อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ลดลง 1.05 ซม.
ด้านแม่น้ำลพบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำ ที่ อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงทรงตัว

สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ลดลงทุกสถานีเช่นกัน
🔻อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณไหลผ่าน 2,227 ลบ.ม./วินาที (ลดลง 31 ลบ.ม./วินาที)
🔻อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ปริมาณไหลผ่าน 2,314 ลบ.ม./วินาที (ลดลง 61 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ำลดลง 18 ซม.
🔻จ.อ่างทอง ปริมาณไหลผ่าน 2,338 (ลดลง 74 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ำลดลง 14 ซม.
🔻เขื่อนเจ้าพระยา ระบายลดลง เหลือ 2,330 ลบ.ม./วินาที (ลดลง 94 ลบ.ม./วินาที)

ส่วนสถานการณ์คลองชัยนาท-ป่าสัก ที่ ต.พุคา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของทุ่งฝั่งซ้าย ระดับน้ำลดลงกว่า 1.30 เมตร สามารถใช้เส้นทางสัญจรภายในหมู่บ้านได้แล้ว ขณะที่ อ.เมือง จ.ลพบุรี กรมชลประทาน ยังคงเร่งระบายน้ำลงสู่คลองชัยนาท-ป่าสัก อย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่

ทั้งนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศ ที่จะทำให้มีฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “คมปาซุ” และติดตามสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา