
อย่างไรก็ตาม สภาเกษตรกรจังหวัดแพร่ได้ลงพื้นที่และเปิดเวทีเพื่อรับฟังปัญหาเกษตรกรเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลนาพูน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นเวทีในการแสดงความเห็นนำเสนอปัญหาของเกษตรกร เช่น ปัญหาราคาตกต่ำ ขาดการรวมกลุ่ม ไม่มีการวางแผนการผลิต ภัยแล้งและโรคแคงเกอร์ที่มาพร้อมกัน ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ปุ๋ยและสารเคมี พื้นที่ปลูกไม่มีเอกสารสิทธิ์ ผลผลิตเก็บได้ไม่นาน เป็นต้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบปัญหาและช่วยป้องกัน/แก้ไขได้ตรงจุด โดยสภาเกษตรกรจังหวัดแพร่ได้ยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรต่อไป
ขณะที่ นายสมบูรณ์ ล่ายวน อายุ 64 ปี เกษตรกรเจ้าของ “สวนแม่แขมหลง” เปิดเผยว่า เริ่มทยอยปลูกส้มสวนนี้ตั้งแต่ปี 2536 รวมทั้งปลูกต้นสักทอง 2 พันกว่าต้น ข้าวโพด ประมาณ 4 ไร่ เลี้ยงวัว พื้นที่ประมาณ 32 ไร่ ปลูกส้มประมาณ 12 ไร่ เป็นส้มสีทอง รสชาติหวานอร่อยท้าให้ชิมยิ่งอายุ 11 เดือนขึ้นไป อร่อยทุกลูกแน่นอน มีพ่อค้าต่างถิ่นลงทุนมาซื้อถึงสวนบอกนำไปคั้นสดลูกค้าติดใจ ขายดี ทั้งนี้ ปัญหาส้มที่เกิดขึ้นหนักสุดคือภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง บวกกับปัญหาไวรัสโควิด-19 ระบาดปีนี้ ราคาร่วงมากจะเก็บผลผลิตเอาไว้ก็ยื้อไม่ไหวงอมจัดลม/ฝนมาก็ร่วงหมดไม่ได้ขาย พยายามหาตลาดโดนกดราคา ส้ม 20 ลัง ขายได้แค่ 2 พันกว่าบาท ไม่คุ้มกับค่าแรง/ค่าน้ำมัน ตลาดท้องถิ่นปิดเช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย อย่างไรก็ตาม ในการทำสวนส้มนั้นไม่ได้ขายแค่ผลสดอย่างเดียว ที่สวนยังตอนกิ่งพันธุ์ ชำกับพื้นดินจำหน่าย ลำต้นเท่านิ้วก้อย สูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร ราคากิ่งละ 50 บาท รอบหนึ่งผลิตได้ประมาณ 100-200 กิ่ง แต่ก็ไม่พอขาย หากตอนกิ่งชำส้มขายอย่างเดียวไม่รวยก็มีเงินใช้แน่นอน แต่ถึงกระนั้นก็อยากให้สภาเกษตรกรจังหวัดแพร่เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงเรื่องของการแปรรูป การตลาด การอบรมให้ความรู้ ด้วยพืชเศรษฐกิจ ผัก ผลไม้ ยางพารา อื่นๆต่างก็มีพี่เลี้ยง มีตัวช่วย แต่ส้มนั้นไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลช่วยเหลือ สภาเกษตรกรเป็นปากเสียงตัวแทนของเกษตรกรจึงหวังพึ่งต่อไป






























