ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นพาดผ่านเข้าสู่ประเทศไทย ได้สั่งการให้กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปบรรเทาความเดือดร้อนและดูแลประชาชนให้ถึงที่สุด
นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ว่า ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน มีปริมาณน้ำ 349 ล้าน ลบ.ม.(49 % ของความจุอ่างฯ) ปิดการระบายน้ำ ส่วนอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์มีปริมาณน้ำเต็มความจุที่ 44 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำ 30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จำเป็นต้องระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ส่วนที่อ่างเก็บน้ำห้วยผาก มีปริมาณน้ำ 20 ล้าน ลบ.ม. (74 % ของความจุอ่างฯ) ปิดการระบาย ทั้งนี้ ปริมาณจากอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์ จะไหลไปรวมกับปริมาณน้ำท่าที่เกิดจากฝนตกด้านท้ายอ่างฯ ก่อนจะไหลไปรวมกับแม่น้ำเพชรบุรีเข้าสู่เขื่อนเพชร ซึ่งจะเป็นตัวควบคุมการระบายน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี ที่จะไหลลงไปสู่ตัวเมืองจังหวัดเพชรบุรีตามลำดับ
กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำ โดยการผันน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนเพชร เข้าสู่คลองส่งน้ำสายใหญ่ 3 ระบายน้ำไปยังคลองระบายน้ำ D.9 พร้อมกับเพิ่มการระบายน้ำเข้าคลองส่งน้ำอีก 3 สาย รวมปริมาณน้ำทั้งสิ้น 100 ลบ.ม./วินาที ก่อนระบายออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด ด้านเขื่อนเพชรปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 108 ลบ.ม./วินาที มีแนวโน้มลดลง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี ที่สถานี B.15 ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี ต่ำกว่าตลิ่ง 35เซนติเมตร (ตลิ่งสูง 5.40 เมตร) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดว่าระดับน้ำจะทรงตัวในช่วงบ่ายของวันนี้ สถานการณ์น้ำโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้
ในส่วนของการเตรียมความพร้อมการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ สำนักงานชลประทานที่ 14 ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 17 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำติดตั้งแล้ว 14 เครื่อง ซึ่งสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้อีก นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนรถแบคโฮ 5 คัน และรถเครนยกอีก 1 คัน
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ทำการตรวจสอบอาคารชลประทานต่างๆให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมไปถึงการกำจัดวัชพืชไม่ให้กีดขวางทางน้ำ ควบคู่ไปกับการนำน้ำท่าเข้าไปเก็บกักไว้ในพื้นที่แก้มลิง หรือแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ฤดูแล้งหน้าให้ได้มากที่สุดด้วย หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ชลประทานบริการประชาชนได้ตลอดเวลา