ตามที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายให้ กรมชลประทานบริหารจัดการพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จากอิทธิพลพายุ “โมลาเบ” เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด นั้น
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยเขื่อน ลงพื้นที่เพื่อติดตามสภาพน้ำและตรวจสอบความปลอดภัยเขื่อนของอ่างเก็บน้ำลำเชียงสา อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ภายหลังได้รับผลกระทบจากพายุ “โมลาเบ” ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯจำนวนมาก ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่าง 7.65 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 102 % ของความจุ มีปริมาณน้ำไหลล้นผ่านอาคารระบายน้ำล้นวันละ 0.43 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลไปบรรจบกับน้ำในลำพระเพลิงที่อำเภอโชคชัยก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำมูลตามลำดับ
โดยจากการตรวจสอบด้านความปลอดภัยเขื่อนอย่างละเอียดแล้ว พบว่าโครงสร้างของอ่างเก็บน้ำลำเชียงสา ยังคงมีความมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยดี อยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติ
สำหรับปริมาณน้ำที่ล้นผ่านอาคารระบายน้ำล้น ปัจจุบันมีระดับสูงกว่าสันฝายประมาณ 60 ซม. คิดเป็นปริมาณน้ำระบายวันละ 0.40 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าว จะไหลผ่านฝายยางลำเชียงสา ซึ่งปัจจุบันได้ยุบฝายยางลงแล้ว เพื่อให้น้ำไหลผ่านฝายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนของลำน้ำลำเชียงสา ยังสามารถรับปริมาณน้ำได้อีก และยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่ประมาณ 2-3 เมตร แต่น้ำที่ไหลผ่านบริเวณบ้านห้วยสะแกราช ไม่สามารถระบายได้ทัน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวลำน้ำค่อนข้างแคบ ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้านดังกล่าว ปัจจุบันปริมาณน้ำในอ่างฯเริ่มทรงตัว มีแนวโน้มลดลงแล้ว หากไม่มีฝนตกลงมาทางนตอนบน คาดว่าสภาพน้ำที่ไหลอาคารระบายน้ำล้นจะลดลงตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ด้านท้ายอ่างฯเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว